HOT

อุตฯเหล็กไทยขาดทุนต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ชี้ เหล็กจีนนำเข้าเป็นเหตุ
POSTED ON 02/06/2558


ข่าวอุตสาหกรรม - รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยกลุ่มอุตสาหกรรมประเภทเหล็กในไตรมาสแรกของปีนี้ จำนวน 25 บริษัท มีผลขาดทุนรวม 4,142.76 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนรวม 1,238.28 ล้านบาท โดยเป็นการขาดทุนอย่างต่อเนื่องเข้าปีที่ 4 ของธุรกิจเหล็กภายในประเทศ ซึ่งปัจจัยลบสำคัญมาจากการนำเข้าเหล็กที่มีอัตราสูงถึง 60% โดยเฉพาะจากจีน ที่มีการส่งเสริมการส่งออกจากรัฐบาลจีนเพื่อระบายอัตราการผลิตเหลือใช้ที่มีปริมาณสูง ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจทั่วภูมิภาค

 

นายยรรยง คุโรวาท นายกสมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย กล่าวว่า ปัญหาเหล็กนำเข้าส่งผลให้การใช้กำลังการผลิตของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศเหลือน้อยกว่า 40% รวมถึงจะกระทบต่อการจ้างงานของอุตสาหกรรมในอนาคต โดยกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ 8 สมาคม ได้ร่วมกันยื่นหนังสือขอรับความคุ้มครองถึงคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ขอให้เร่งดำเนินการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ ตามมาตรา 49

 

นอกจากนี้ ตัวเลขปริมาณความต้องการใช้เหล็กของประเทศอาเซียนทั้ง 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไทย, สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งมีการคาดการณ์อัตราการใช้เหล็กของปี 2558 ว่าจะเติบโตสูงขึ้น 4.3% เป็น 66 ล้านตัน จาก 63 ล้านตันในปี 2557 แต่อุตสาหกรรมในแต่ละประเทศกลับไม่ได้รับประโยชน์จากอัตราการเติบโตดังกล่าว เนื่องจากผลกระทบจากเหล็กนำเข้าจากจีน อีกทั้งผู้ประกอบการเหล็กยังได้รับผลกระทบจากราคาเหล็กตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี ทำให้ทุกประเทศมีการประกาศใช้มาตรการเร่งด่วนในการปกป้องอุตสาหกรรมภายในจากผลกระทบของเหล็กนำเข้าดังกล่าว

 

นายสุรชัย ประมวลเจริญกิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า นักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นกลุ่มเหล็กในช่วงนี้ เพราะยังมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก ทั้งปัญหาด้านการนำเข้าเหล็กจากจีนที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่เข้ามาขยายธุรกิจในไทยมากขึ้น ประกอบกับราคาเหล็กในตลาดโลกลดลงอย่างรุนแรง ส่งผลให้บริษัทหลายแห่งขาดทุนสต็อกเหล็กค่อนข้างมาก ทั้งนี้ ธุรกิจเหล็กในไทยนอกจากจะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนสต็อกเหล็กแล้ว ยังเผชิญภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวเด่นชัดภายในปี 2559 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ