ข่าวอุตสาหกรรม - หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจรายงานต่อกรณีที่นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการหารือกับทางกรมการอุตสาหกรรมทหาร กระทรวงกลาโหม เพื่อร่วมมือในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมในพื้นที่ประมาณ 5,000-10,000 ไร่ โดยมีการตอบรับในด้านความร่วมมือและจะมีการลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ความร่วมมือกันมาตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2557 แต่ก็มีการเลื่อนมาตลอด จนถึงทุกวันนี้การลงนามดังกล่าวก็ยังไม่เกิดขึ้น เนื่องจากทางกรมการอุตสาหกรรมทหารได้ชี้แจงว่า จะขอกลับไปศึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนที่จะตัดสินใจในความร่วมมือ

ทั้งนี้ การจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมกำจัดกากอุตสาหกรรมถือเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาขยะของประเทศ ที่จะต้องร่วมมือกับทางทหารในการจัดหาพื้นที่ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ทหาร ที่ราชพัสดุ พื้นที่ว่างเปล่าของกรมธนารักษ์ นำมาจัดตั้งเป็นนิคมอุตสาหกรรมกำจัดกากอุตสาหกรรมอย่างครบวงจร แต่เมื่อยังไม่มีการลงนามเอ็มโอยูเกิดขึ้น การร่วมกันศึกษาพื้นที่ตั้งนิคมจึงยังไม่สามารถเดินหน้าได้

อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะพยายามหารือกับทางกรมการอุตสาหกรรมทหารอีกครั้งหนึ่งว่าจะตัดสินใจต่อเรื่องนี้อย่างไร ว่าทางทหารพร้อมที่จะให้พื้นที่ในการจัดตั้งนิคมหรือไม่ ระหว่างนี้เอง ทาง กรอ.จะเดินหน้าทำการศึกษาจัดหาพื้นที่รองรับกากอุตสาหกรรมทั่วประเทศ 6 แห่ง ในภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ เน้นไปยังจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อวิเคราะห์ถึงปริมาณกากของเสียอุตสาหกรรมในแต่ละพื้นที่มีมากน้อยเพียงใด คุ้มค่ากับการลงทุนตั้งนิคมอุตสาหกรรมกำจัดกากฯหรือไม่ เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นนำร่องในการจัดตั้งนิคมฯต่อไป ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวจะแล้วเสร็จในเดือน ก.ย.2558 นี้

สำหรับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมกำจัดกากอุตสาหกรรม ทาง กรอ.จะใช้งบประมาณกว่า 200 ล้านบาทรองรับแผนการดำเนินงานในระยะ 2 ปีแรก และงบประมาณรวมสำหรับการจัดการกากอุตสาหกรรม 5 ปี อีก 430 ล้านบาท คาดว่าถ้าการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมประสบความสำเร็จ จะก่อให้เกิดธุรกิจกำจัดกากในประเทศมูลค่ากว่า 5,000 - 10,000 ล้านบาทต่อปี

พร้อมกันนี้ฐานเศรษฐกิจยังรายงานด้วยว่า แหล่งข่าวจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ในการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมกำจัดกากฯ ทาง กนอ.จะต้องลงนามเอ็มโอยูกับทางกระทรวงกลาโหมด้วย แต่ก็ต้องเลื่อนออกมาอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเข้าใจว่าทางทหารเองอาจจะยังไม่มีความพร้อม และยังต้องศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งมองว่าทางทหารอาจจะยังเป็นห่วงในการจัดหาพื้นที่ เกรงว่าจะโดนต่อต้านจากชุมชนในพื้นที่ ทำให้ความร่วมมือเงียบมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะมีการเจรจากันอีกเมื่อใด