ข่าวอุตสาหกรรม - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาเกี่ยวกับการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันการค้าของประเทศไทย ในการประชุมสามัญประจำปี 2558 ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า ขณะนี้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศของรัฐบาลถือว่าอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่จะนำไปสู่ความยั่งยืน แต่ก็ถูกหลายฝ่ายตำหนิว่าทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ซึ่งอยากทำความเข้าใจว่าบางเรื่องที่รัฐบาลนี้ไม่ได้ก่อขึ้น เช่น โครงการคืนภาษีรถยนต์คันแรกที่เป็นผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมา แต่รัฐบาลชุดนี้ต้องคืนเงินภาษีกว่า 1 แสนล้านบาท และต้องยอมรับว่าส่งผลกระทบให้ความต้องการรถยนต์ในประเทศขณะนี้ลดลงด้วย

ส่วนโครงการอีโคคาร์ในไทยนั้นต้องพิจารณาเรื่องการส่งเสริมว่าเพียงพอแล้วหรือไม่ ซึ่งหากส่งเสริมมากไป จะทำให้เกิดภาวะล้นตลาดในที่สุด เพราะขณะนี้มีโครงการส่งเสริมอีโคคาร์เฟส 2 แล้ว ดังนั้น ควรพิจารณารถยนต์ประเภทอื่นๆ เพิ่มเติม รวมทั้งพิจารณาเชื้อเพลิงที่เหมาะสมควบคู่ไปด้วย

ด้าน นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม ระบุว่า โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีที่มองว่ารถยนต์อีโคคาร์จะล้นตลาด ดังนั้น ในการส่งเสริมโครงการต่อไปน่าจะส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพราะว่าตลาดโลกต้องการรถยนต์ที่ประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าภายใน 5 ปี รถยนต์ไฟฟ้าจะเริ่มเข้ามาวิ่งในเมืองไทย และภายใน 10 ปี ตลาดโลกจะมีความต้องการอย่างมาก

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) กล่าวว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีกล่าวไปนั้นไม่น่าจะหมายถึงการเลิกส่งเสริมโครงการอีโคคาร์ แต่น่าจะหมายถึงส่งเสริมทั้งอีโคคาร์และ ไฮบริด เพียงแต่อยากให้ทบทวนโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 ให้ดีขึ้น เพราะว่าหลายค่ายก็ยังไม่ผลิต อาจจะมีการพิจารณาผ่อนปรนเงื่อนไข ไม่ให้เข้มงวดนัก เช่น การกำหนดปริมาณการผลิตไว้ในเงื่อนไข ซึ่งทาง ส.อ.ท.เองก็อาจจะมีการประชุมเพื่อนำเสนอภาครัฐต่อไป