HOT

โรงงานแปรรูปอาหารทะเลมหาชัยขาดแคลนวัตถุดิบหนัก เล็งปรับขึ้นราคา
POSTED ON 13/02/2558


ข่าวอุตสาหกรรม - นายอาคม เครือวัลย์ ประธานชมรมแปรรูปอาหารทะเลจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางการประเทศอินโดนีเซียออกมาตรการคุมเข้มเรือประมงต่างชาติที่ไร้สัมปทานรุกน่านน้ำอินโดนีเซีย โดยให้อำนาจเจ้าหน้าที่สามารถทำลายเรือประมงด้วยการเผาหรือจมเรือประมงได้ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ทำให้เรือประมงไทยหลายร้อยลำต้องเดินทางกลับประเทศเพื่อความปลอดภัยของชาวประมง และขณะนี้ก็ยังไม่ได้ออกไปจับสัตว์น้ำป้อนให้กับอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเล

 

ปัญหาดังกล่าวนี้ได้ส่งผลกระทบทันทีต่ออุตสาหกรรมแปรรูปอาหารในจังหวัดสมุทรสาคร เพราะขาดแคลนวัตถุดิบอย่างหนักที่จะป้อนให้กับโรงงานขนาดเล็กกว่า 700 แห่ง ที่เป็นสมาชิกของชมรมกำลังได้ความเดือดร้อน ทำให้ตั้งแต่ต้นปี 2558 ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้มีโรงงานที่ไม่มีวัตถุดิบในการผลิตปิดตัวไปแล้ว 20-30% ส่วนโรงงานที่เหลืออยู่ก็กำลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างหนัก ภาวะหนี้สินเพิ่มสูงขึ้น เพราะไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้เต็ม 100%

 

ทั้งนี้ หากปัญหายืดเยื้อจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกอุตสาหกรรมอาหารทะเล เพราะโรงงานขนาดเล็กที่รับจ้างผลิต (โออีเอ็ม) ให้โรงงานขนาดใหญ่ไม่สามารถผลิตออร์เดอร์ป้อนให้ทันตามความต้องการได้ ถือว่าเป็นปัจจัยลบที่ฉุดตลาดส่งออกอาหารทะเลปีนี้ไม่ให้เติบโต ทั้งๆ ที่ตลาดมีแนวโน้มขยายตัว ขณะที่ผู้ประกอบการรายเล็กที่รับโออีเอ็มหลายรายก็เริ่มปรับขึ้นราคา 30-40% ผู้ส่งออกต้องปรับราคาส่งออกขึ้นตามไปด้วย ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันสินค้าไทยในตลาดโลกลดลงทันที

 

"เมื่อปี 2557 โรงงานแปรรูปในจังหวัดสมุทรสาครก็ประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบมาโดยตลอด แต่ปีนี้จะมีความรุนแรงมากกว่า หลังจากเรือประมงไทยหนีกลับจากน่านน้ำอินโดนีเซีย ทำให้ไม่มีสัตว์น้ำที่จะนำมาแปรรูป นับว่าเป็นปีที่โชคร้ายซ้ำเติมอุตสาหกรรมประมงไทย หลังจากที่ผ่านมามีปัญหาถูกกีดกันทางการค้าเพราะปัญหาการค้ามนุษย์ และถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) จากสหภาพยุโรปและอเมริกา นอกจากนั้น ยังจะมีการปิดอ่าวไทยรูป ก. ตอนบน ระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 15 ก.พ. ถึง 15 เม.ย.2558 เพื่อให้สัตว์น้ำได้วางไข่ ปรับสมดุลระบบนิเวศในท้องทะเล" นายอาคม กล่าว

 

 

ขณะที่ประเทศเมียนมาร์ก็เตรียมที่จะปิดน่านน้ำในช่วงเดือน มี.ค. - พ.ค.2558 นี้เช่นกัน ทำให้เรือประมงไทยไม่สามารถออกจับสัตว์น้ำได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่ออุตสาหกรรมประมงสมุทรสาครทั้งระบบ เพราะเป็นแหล่งผลิตใหญ่ทั้งอาหารทะเลสด และแปรรูปจำหน่ายทั้งในและตลาดประเทศ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ 1 แสนล้านบาทต่อปี

 

สำหรับผลกระทบต่อผู้บริโภคนั้น ปีนี้ราคาอาหารทะเลแปรรูปในประเทศจะปรับตัวสูงขึ้น 20-30% โดยเฉพาะกลุ่มกุ้งทะเลแกะเปลือก เนื้อปลาทะเลสดชำแหละ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่โรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร มีความต้องการสูงมาก ผู้ประกอบการจะต้องแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้น

 

ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคการประมงก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ปัจจุบันโรงงานขนาดใหญ่มีการแย่งแรงงานจากโรงงานขนาดเล็ก โดยยอมจ่ายค่าจ้างที่สูงถึงวันละ 415 บาท แรงงานไหลเข้าสู่โรงงานขนาดใหญ่ ทำให้โรงงานขนาดเล็กขาดแคลนแรงงาน มีโอกาสปิดกิจการเพิ่มมากขึ้น และยังมีแรงงานเมียนมาร์กว่า 1,000 คน ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา แล้วยังไม่กลับเข้ามาทำงาน

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ