HOT

อุตฯเคมี-พลาสติก-กระดาษ-อาหาร รับอานิสงส์น้ำมันลง
POSTED ON 20/01/2558


ข่าวอุตสาหกรรม - นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว ทำให้คาดการณ์ว่าช่วงครึ่งแรกของปีนี้จะยังอยู่ในระดับต่ำเฉลี่ย 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และครึ่งหลังของปีนี้จะปรับเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 70-80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ระดับ 65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

 

ทั้งนี้ พบว่า มีอุตสาหกรรมที่ได้รับผลในทางบวกและส่งผลต่อราคาวัตถุดิบในหลายประเภทที่ลดลงตามราคาน้ำมัน ได้แก่ (1) อุตสาหกรรมการผลิตเคมีภัณฑ์ขั้นพื้นฐานและเคมีภัณฑ์อื่นๆ (2) อุตสาหกรรมพลาสติก (3) อุตสาหกรรมกระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ และ (4) อุตสาหกรรมอาหาร

 

สำหรับอุตสาหกรรมกลุ่ม 1 และ 2 ได้รับผลดีจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียมลดลง ส่งผลให้ผู้ผลิตปรับระดับการผลิตเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น ขณะที่อุตสาหกรรมกระดาษฯ ได้รับผลดีจากกลุ่มเคมีภัณฑ์ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ส่วนอุตสาหกรรมอาหารได้รับผลดีจากผู้บริโภคมีรายจ่ายด้านเชื้อเพลิงถูกลงจึงใช้จ่ายอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ จะติดตามราคาน้ำมันโลกต่อไปอีก 5-6 เดือน หากยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องถึงกลางปีนี้ จะพิจารณาปรับแนวทางคำนวณโครงสร้างต้นทุนภาคอุตสาหกรรมแท้จริงใหม่

 

"ผลจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง คาดว่าจะทำให้มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของภาคอุตสาหกรรม หรือ จีดีพีอุตสาหกรรม มีค่าเพิ่มขึ้น 0.41% เป็นผลมาจากการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น 0.10% และการส่งออกที่เพิ่มขึ้น 0.15% โดยการการส่งออกที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากต้นทุนการผลิตปรับลดลงทำให้ปริมาณการผลิตปรับเพิ่มขึ้นและส่วนใหญ่เป็นการผลิตเพื่อการส่งออก ประกอบกับการลงทุนที่เพิ่มขึ้น 0.20% นอกจากนั้นการนำเข้าสินค้าก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาสินค้าปรับลดลง" รมว.อุตสาหกรรม กล่าว

 

ที่มา : มติชน