HOT

อุตฯ เร่งคุมเข้มความปลอดภัย หลังพบไฟไหม้โรงงานบ่อย
POSTED ON 19/01/2558


ข่าวอุตสาหกรรม - นายศักดา พันธ์กล้า รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้มีเหตุเพลิงไหม้โรงงานเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ดังนั้น กรมฯ จึงได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบโรงงาน โดยเฉพาะระบบป้องกันเพลิงไหม้

 

หลังจากนี้ทุกโรงงานที่เข้าข่ายมีความเสี่ยงในการเกิดอัคคีภัยจะต้องทำตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยจะต้องมีเครื่องดับเพลิงแบบมือถือทุนทุกๆ ระยะห่างไม่เกิน 20 เมตร ให้อยู่สูงจากพื้นไม่เกินกว่า 1.50 เมตร และให้โรงงานจัดเตรียมน้ำสำหรับดับเพลิงให้กับอุปกรณ์ฉีดน้ำดับเพลิงได้อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 30 นาที

 

นอกจากนี้ โรงงานที่มีสถานที่จัดเก็บวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ที่ติดไฟได้ และมีพื้นที่ต่อเนื่องติดต่อกันตั้งแต่ 1,000 ตารางเมตร ขึ้นไป ต้องติดตั้งระบบดับเพลิงอัตโนมัติให้ครอบคลุมพื้นที่นั้น รวมทั้งในส่วนของพื้นที่อาคารโรงงานที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยสูงและปานกลาง ที่มีสถานที่จัดเก็บวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ที่ติดไฟได้ ต้องแยกพื้นที่จากส่วนอื่นของอาคารด้วยวัสดุทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง ขณะที่อาคารโรงงานเดี่ยวที่เป็นโครงเหล็กจะต้องหุ้มด้วยวัสดุทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง ถ้าหลายชั้นต้องทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง ส่วนเครื่องจักรอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุไวไฟต้องต่อสายดิน และต้องมีเส้นทางหนีไฟที่ให้คนงานออกจากอาคารได้ภายใน 5 นาที

 

สำหรับการตรวจจับโรงงานที่ปล่อยมลพิษนั้น ในปี 2557 กรมฯได้ตรวจพบโรงงงานที่ปล่อยมลพิษได้ทั้งสิ้น 150 โรงงงาน และได้ใช้พ.ร.บ.โรงงาน มาตรา 37 สั่งให้โรงงานปรับปรุงแก้ไขหรือปฏิบัติให้ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งในจำนวนนี้มี 7 โรงงาน ที่ได้สั่งให้หยุดประกอบกิจการ เนื่องจากไม่ปรับปรุงตามที่กำหนด หรือเกิดเหตุเพลิงไหม้จนอาจก่อให้เกิดอันตราย โดยสถิติการตรวจจับโรงงานที่ปล่อยมลพิษในปี 2557 ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่ได้สั่งให้โรงงานปรับปรุงแก้ไขตามมาตรตรา 37 จำนวน 164 ราย และถูกสั่งให้หยุดประกอบกิจการ 13 ราย

 

ทั้งนี้ มั่นใจว่าปัญหาโรงงานปล่อยมลพิษจะค่อยๆ ลดลง เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงเป็นตัวกดดันให้โรงงานต้องปรับเปลี่ยนเครื่องจักรให้ทันสมัย และปรับเปลี่ยนวิธีการบริหารจัดการ ทำให้มีการปล่อยมลพิษและขยะอุตสาหกรรมลดลง จนถึงขั้นไม่ปล่อยของเสียออกสู่สิ่งแวดล้อมเลย เพื่อลดต้นทุนและปฏิบัติให้ได้ตามมาตรฐานขั้นสูงที่ประเทศคู่ค้ากำหนด รวมทั้งกระทรวงอุตสาหกรรมยังได้ให้ความสำคัญเพิ่มความเข้มงวดในการจัดการปัญหาเหล่านี้และอยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษกับโรงงานที่ทำผิด

 

ด้าน นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ.ได้กำชับไปยังผู้ประกอบการแต่ละนิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งทั่วประเทศเตรียมพร้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินหากเกิดฉุกเฉินด้านต่างๆ โดยเฉพาะแผนป้องกันอัคคีภัยในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด เนื่องจากขณะนี้สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ทำให้อากาศแห้งลมแรง อาจเกิดอัคคีภัยได้ง่าย พร้อมตั้งศูนย์ปฏิบัติการ กนอ. หรือ EMC2@IEA-T ที่อาคารสำนักงานใหญ่ ดำเนินการตลอด 24 ชม. ทำหน้าที่เป็นศูนย์วอร์รูมติดตามสถานการณ์ แจ้งเตือนภัย และเป็นศูนย์กลางประสานหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ท้องถิ่นทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อช่วยเหลือได้ทันท่วงที