HOT

ปตท.สผ. ยันเดินเครื่องผลิตปกติ แม้ราคาน้ำมันโลกดิ่งเหว
POSTED ON 14/01/2558


ข่าวอุตสาหกรรม - บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ยืนยันจะยังคงเดินหน้าผลิตปิโตรเลียมทุกแหล่งตามปกติต่อไป เพื่อรองรับความต้องการใช้ในประเทศ แม้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะร่วงลงมาอย่างรุนแรงจนต่ำสุดรอบเกือบ 6 ปีในขณะนี้

 

แหล่งข่าวจาก PTTEP กล่าวว่า ปตท.สผ.ได้ประเมินต้นทุนการผลิตปิโตรเลียมเฉลี่ยของบริษัทฯ จะอยู่ที่ราว 42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แบ่งเป็นส่วนเงินสดที่ใช้ดำเนินการ 21 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และส่วนที่ไม่ใช่เงินสด แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่มีการลงทุนไปแล้ว 21 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดังนั้น หากราคาน้ำมันปรับลดลงมาที่ 42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล บริษัทฯ ก็ยังสามารถดำเนินการผลิตได้ เพียงแต่จะไม่มีเงินกำไรไปใช้ขยายการลงทุนใหม่เพิ่มเติม ทำให้โอกาสการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมใหม่เป็นไปได้ยาก เหตุที่เรายังต้องผลิตเพราะดีมานด์ในประเทศยังมีอยู่

 

ด้าน นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ PTTEP ระบุว่า ในช่วง 1-2 เดือนนี้คงต้องติดตามทิศทางราคาน้ำมันดิบตลาดโลก คาดว่าจะได้ความชัดเจนในปลายปี 2558 ว่าจะลงทุนต่อไปอย่างไร เนื่องจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลงรวดเร็วกว่าที่คาด ขณะที่จะใช้จังหวะเวลานี้ทบทวนแผนลงทุนโครงการใหม่ 5 แห่ง ได้แก่ แหล่ง M3 ในพม่า, แหล่ง Cash Maple ที่ออสเตรเลีย, แหล่งในโมซัมบิก, แหล่งออยล์แซดน์ เคดีดี ในแคนาดา และแหล่งฮัลซีบาราเกซ ในอัลจีเรีย

 

ทั้งนี้ ตามแผน 5 ปี (ปี 2558-2562) PTTEP ตั้งงบลงทุนรวม 24,295 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ และคาดว่าจะมีปริมาณขายปิโตรเลียมเฉลี่ยปีนี้เติบโต 6%

 

ขณะที่ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) รายงานราคาน้ำมันดิบดูไบ ปิดล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ม.ค.2558 ลดลง 1.79 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาที่ 45.24 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดแรงอีก 5% ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลดลงแรงเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่ปี 2554 และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค.2552 หลัง Goldman Sachs เตือนว่าราคาน้ำมันดิบอาจลดต่ออีก ในขณะที่ผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกยังคงระดับการผลิตเพื่อรักษาส่วนแบ่งในตลาด ท่ามกลางความกังวลว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ อาจปรับเพิ่มขึ้น หลังโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ หลายแห่งมีการปิดซ่อมบำรุงฉุกเฉิน