ที่มารูปภาพ : กลุ่มคนอาสากู้ชีพกู้ภัย ไทยแลนด์-ธน.3-31

ข่าวอุตสาหกรรม - เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2558 เวลา 11.30 น. "ร.ต.ท.สรศักดิ์ แสงจันทร์" พนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเพลิงไหม้ ภายในบริษัท เอพีซีบี อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เลขที่ 139/2 หมู่ 2 ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีคนติดอยู่ภายในจำนวนมาก รีบประสานรถน้ำดับเพลิงกว่า 30 คัน รถกระเช้าอีก 5 คัน แล้วไปตรวจสอบพร้อม "พ.ต.อ.ชัยยะ เพชรปัญญา" ผกก. "พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน" ผบช.ภ.1 "พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์" ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา

พบเพลิงลุกไหม้ที่อาคารสูง 5 ชั้น โดยต้นเพลิงมาจากชั้นที่ 4 ลุกลามไปยังชั้นที่ 3 และชั้นที่ 5 ซึ่งเก็บสารเคมีที่ไว้ใช้ในการผลิตแผงวงจรอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ก่อนเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็วเกิดเป็นกลุ่มควันดำพวยพุ่งขึ้นเต็มท้องฟ้า และส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว พนักงานของโรงงานกว่า 400 คน พากันวิ่งหนีตายโกลาหล เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถกระเช้าฉีดน้ำ เพื่อสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลาม ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ จากนั้นชุดผจญเพลิงได้เข้าไปควบคุมเพลิงภายในตัวอาคาร เพื่อดับเถ้าถ่าน พร้อมตรวจสอบความเสียหาย พบมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท โดยภายในอาคารไม่มีผู้ติดอยู่แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม พบว่ามีคนงานโรงงานข้างเคียง 18 ราย สูดควันพิษจนแสบจมูก และเกิดการอาเจียน ต้องนำตัวส่ง รพ.บางปะอิน และ รพ.การุญเวชอยุธยา ทำการรักษา ในจำนวนนี้มี 1 ราย แพทย์ให้พักรักษาดูอาการที่โรงพยาบาล

ร.ต.ท.สรศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพนักงานโรงงานทราบว่า ปกติโรงงานนี้มีคนงาน 2,000 คน ระหว่างเกิดเหตุเป็นช่วงที่พนักงานกว่า 400 คน ลงมาพักรับประทานอาหาร เหลือบางส่วนกระจัดกระจายทำงานอยู่ที่ชั้น 3 และ 4 ระหว่างนั้นสังเกตเห็นเปลวเพลิงที่ชั้น 4 ก่อนเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วขยายวงกว้าง แล้วลุกลามใหญ่โตในที่สุด โดยสาเหตุอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นคาดว่ากระแสไฟฟ้าลัดวงจร อย่างไรก็ตามจะประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง สำหรับเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 แล้วของโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมนี้ หลังจากนี้จะประสานกับอุตสาหกรรมจังหวัดและโรงงานเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการความปลอดภัย ไม่ให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นอีก

ด้าน นพ.พิทยา ไพบูลย์ศิริ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) พระนครศรี อยุธยา เปิดเผยว่าอาการส่วนใหญ่ผู้บาดเจ็บ มีอาการสำลักควัน ในจำนวนนี้มี 1 คนที่ต้องรักษาตัวที่ รพ.บางปะอิน เพื่อสังเกตอาการ ทั้งนี้ ทราบว่าในบริษัทฯ ดังกล่าวมีสารเคมีไฮโดรคลอริกแอซิด (กรดเกลือ) ในการทำชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต้องระมัดระวัง เพราะหากสูดกรดเกลือเข้าไปโดยตรงส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้ทางเดินหายใจอุดตัน บวม หายใจหอบ หากสูดเข้าไปมากจนมีอาการรุนแรง กรดเกลือก็จะไปทำลายปอด นอกจากนี้ หากกรดเกลือสัมผัสผิวหนังก็จะกัดทำให้ผิวหนังเป็นแผลด้วย แต่ขณะนี้ไม่มีผู้ป่วยรายใดที่ได้รับสารเคมีดังกล่าวโดยตรง

ที่มา : เดลินิวส์