ข่าวการเงินการลงทุน (Finance and Investment) - ไอด์โฮเฟน (ประเทศเนเธอร์แลนด์) ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีบรรยากาศการลงทุนที่ดีที่สุดอันดับที่สามของยุโรปรองจากลอนดอนและเฮลซิงกิ ในการจัดอันดับดัชนีการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (fDi Index) นั้น หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์ ได้จัดอันดับให้เมืองไอด์โฮเฟนอยู่ในอันดับที่ 3

หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของอังกฤษเปิดเผยว่า สิ่งสำคัญของภูมิภาคเบรนพอร์ทซึ่งเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี คือเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนในอนาคต ไอด์โฮเฟนซึ่งติดอันดับหนึ่งในสามเมืองที่ดีที่สุดนั้น มีพัฒนาการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการจัดอันดับ fDi ซึ่งได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดจากนักลงทุน เนื่องจากยังไม่เคยมีเมืองใดๆ ของเนเธอร์แลนด์ที่ได้รับอันดับสูงในการจัดอันดับดังกล่าว

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับจัดอันดับต้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการจัดอันดับจากทางการ” ร็อบ ฟาน กิจเซล นายกเทศมนตรีของเมืองไอด์โฮเฟนกล่าว “นี่เป็นการยืนยันว่าเราเดินมาในทิศทางที่ถูกต้องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ไอด์โฮเฟนได้พัฒนาไปสู่ระบบนิเวศน์ความร่วมมือด้านเทคโลโลยีสมัยใหม่และการออกแบบที่ประสบความสำเร็จ โดยการสร้างสรรค์และความรู้ได้มาบรรจบกันและส่งเสริมซึ่งกันและกัน ไอด์โฮเฟนเป็นเมืองซึ่งโซลูชั่นนวัตกรรมได้ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายต่างๆ ที่โลกกำลังจะเผชิญในอีกหลายปีข้างหน้า เรื่องดังกล่าวส่งผลให้เราได้รับความสนใจอย่างมากจากนักลงทุน และยังเป็นสิ่งที่ไฟแนนเชี่ยลไทม์สมองเห็นอีกด้วย”

การที่ไอด์โฮเฟนได้รับการจัดอันดับที่สูงนั้น มาจากการประยุกต์ใช้นโยบายเศรษฐกิจที่เป็นนวัตกรรมของธุรกิจต่างๆ รัฐบาล และสถาบันวิจัยในภูมิภาคในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดัชนี fDi พิจารณาจากกลยุทธ์ด้าน fDi โครงสร้างพื้นฐาน และศักยภาพทางเศรษฐกิจ การที่เบรนพอร์ท ไอด์โฮเฟน ได้รับคะแนนในระดับสูงในเรื่องดังกล่าวนั้น จะช่วยให้เมืองเติบโตไปสู่กลไกทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งและมีผลกระทบในเชิงบวกต่อภูมิภาคอื่นๆของเนเธอร์แลนด์ ไอด์โฮเฟนได้วางรากฐานบรรยากาศทางธุรกิจที่ทันสมัยให้กับจังหวัดบราแบนท์ ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามีส่วนในกลยุทธ์เศรษฐกิจร่วมกัน ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่จังหวัดบราแบนท์จะได้รับการจัดอันดับให้เป็นสถานที่ที่โดดเด่นที่สุดในดัชนี fDi ในภูมิภาค เมื่อพิจารณาจากกลยุทธ์ด้าน fDi

เบรนพอร์ท ไอด์โฮเฟน มีความมุ่งมั่นที่จะเร่งระยะเวลาการขยายตัวของบริษัทก่อตั้งใหม่ที่มีอนาคตที่สดใส และพัฒนาโอกาสการขยายตัวในอนาคตของบริษัทขนาดใหญ่ด้วยศักยภาพและพันธกิจในระดับโลก การลงทุนโดยตรงยังคงต้องใช้เงินทุนสำหรับการขยายตัวในอนาคตของสถาบันวิจัยสาธารณะและห้องทดลองขนาดใหญ่ในปัจจุบัน