FINANCE & INVESTMENT

กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ร่วง 7.33% หลังรง.จีนปิดจากไวรัสโคโรนาระบาด กระทบ Supply Chain
POSTED ON 28/01/2563


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

ดัชนีกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ร่วง 7.33% มาอยู่ที่ 1,183.18 จุด ลดลง 93.59 จุด เมื่อเวลา 16.27 น. นำดิ่งโดยหุ้น KCE ร่วงแรง 16.22% มาอยู่ที่ 18.60 บาท ลดลง 3.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,776.91 ล้านบาท

หุ้น DELTA ร่วง 7.83% มาอยู่ที่ 50.00 บาท ลดลง 4.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 69.82 ล้านบาท

หุ้น HANA ร่วง 3.45% มาอยู่ที่ 35.00 บาท ลดลง 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 325.58 ล้านบาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลงค่อนข้างมากในช่วงบ่ายนี้ นำดิ่งโดยหุ้นบมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) คาดว่าจะรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา ที่ทำให้มีการปิดโรงงานหลายแห่งในประเทศจีน ซึ่งเป็นนโยบายการสกัดการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งการปิดโรงงานของคู่แข่งน่าจะเป็นผลดี แต่กลับทำให้ Supply Chain ทั้งระบบถูกกระทบไปด้วย ซึ่งแม้ KCE จะมีการส่งออกไปจีน 10-15% และส่วนใหญ่จะส่งออกไปสหรัฐฯ และยุโรป แต่เมื่อโรงงานจีนปิดทำให้การส่งออกสินค้าของบริษัทในไทยอาจได้รับผลกระทบไปด้วย

แม้ว่า KCE จะได้รับผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่า และคำสั่งซื้อชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่เริ่มมีเข้ามาในช่วงปลายเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ทำให้มีการเล่นเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์กันมาก จากความคาดหวังผลประกอบการจะฟื้นตัวในไตรมาส 1/63 แต่เมื่อมาเผชิญเหตุการณ์โรคระบาด ก็อาจทำให้มีการชะลอการส่งออกสินค้า ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 1/63 อาจจะยังไม่ดีอย่างที่คาดหวังกันไว้

นอกจากนี้ ในส่วนผลประกอบการงวดไตรมาส 4/62 ก็คาดว่าจะไม่ดี จากเงินบาทที่แข็งค่า และถูกผลกระทบจากสงครามการค้า แต่ตลาดฯก็ได้รับรู้ไปแล้ว อย่างไรก็ดีขณะนี้ยังไม่แนะนำให้ลงทุน KCE