FINANCE & INVESTMENT

AIE เข้าตลาด MAI ระดมทุนขยายฐานเพิ่มกำลังการผลิต
POSTED ON 17/01/2557


 

ข่าวการเงินการลงทุน - นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร กรรมการบริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษา ทางการเงิน บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE เปิดเผยถึงกรณีที่ AIE ใช้วิธีการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (MAI) ด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคปว่า เนื่องจากต้องการระดมทุนให้สอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจ ซึ่งในความจริงแล้ว AIE สามารถเข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์กำไรสุทธิได้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ดำเนินล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 34.70 ล้านบาทเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งหากใช้วิธีการเข้าระดมทุนด้วยเกณฑ์ปกติ ก็ต้องรอให้งบปี 2556 ออกก่อน กว่าจะระดมทุนได้ก็ต้องรอถึงเดือนมีนาคมหรือเมษายน 2557 ซึ่งจะไม่สอดคล้องกับแผนการใช้เงินลงทุนของบริษัท ดังนั้น จึงเลือกเข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์มาร์เก็ตแคป แต่นักลงทุนก็ไม่ต้องกังวล เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีกำไรสุทธิแล้ว และขาดทุนสะสมก็ล้างหมดแล้ว

 

ทั้งนี้ บริษัทจะเสนอขายหุ้น IPO รวม 455 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 4.75 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 170 ล้านหุ้น และอีก 275 ล้านหุ้น เป็นหุ้นสามัญเดิมที่ AI ถืออยู่นำออกมาขาย โดยจะเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป จำนวน 175 ล้านหุ้น เสนอขายแก่สถาบันต่างประเทศประมาณ 20 ล้านหุ้น และเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้น AI ที่ 250 ล้านหุ้น

 

"การเข้าซื้อขายในตลาด mai ด้วย เกณฑ์มาร์เก็ตแคปนั้น มั่นใจว่าราคาหุ้นจะไม่ซ้ำรอยบริษัทที่เข้าจดทะเบียนด้วยเกณฑ์ดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากบริษัทดำเนินธุรกิจที่แตกต่าง พร้อมทั้งยังมีแผนธุรกิจที่ชัดเจน ที่สำคัญ AIE พลิกกลับมามีกำไรสุทธิจากผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมากว่า 91 ล้าน บาท ซึ่งหลังจากนั้นก็จะมีการพิจารณาจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการในงวดถัดๆ ไปได้ โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ 40% ของกำไรสุทธิ" นายสมศักดิ์ กล่าว

 

ด้าน นายอนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ AIE เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานของบริษัทว่า ตั้งเป้ารายได้รวมปี 2557 อยู่ที่ประมาณ 5,500-6,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการทำสัญญาซื้อขายน้ำมันไบโอดีเซลกับลูกค้าทั้งปี 2557 เรียบร้อยหมดแล้ว โดยมีปริมาณการสั่งซื้อรวมอยู่ที่ 10-12 ล้านลิตรต่อเดือน จากฐานลูกค้าเดิม อาทิ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เป็นต้น

 

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ของ AIE จะมาจากการขายน้ำมันไบโอดีเซล ประมาณ 70% และรายได้จากการขายน้ำมันปาล์ม ภายใต้ตราสินค้าพาโมล่า ประมาณ 20% และที่เหลือเป็นรายได้จากวัตถุดิบและผลพลอยได้ การรับจ้างกลั่นน้ำมันปาล์ม โดย 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 9% มีอัตรากำไรสุทธิที่ 4.4% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของปีที่จะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 7.3% และมีอัตรากำไรสุทธิที่ 3.5%

 

สำหรับกำลังการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลปี 2557 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 9 แสนลิตรต่อวัน จากเดิมมีกำลังการผลิต 4 แสนลิตรต่อวัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาซื้อเครื่องจักร เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 5.5 แสน ลิตรต่อวัน และมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในกลางปี 2557 นี้อีก

 

ส่วนกำลังการผลิตน้ำมันปาล์มจะอยู่เท่าเดิมที่ 3.5 แสนลิตรต่อวัน โดยเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปลงทุนเครื่องจักรผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากกรดไขมันปาล์ม มูลค่า 120 ล้านบาท เสร็จในกลางปี 2557 ซึ่งจะทำให้ สามารถลดต้นทุนวัตถุดิบได้ประมาณ 3.75% ของต้นทุนวัตถุดิบน้ำมันไบโอดีเซล ลงทุนปรับปรุงกระบวนการผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท ซึ่งจะลดต้นทุนเอธานอลได้ประมาณ 2% ของต้นทุนวัตถุดิบน้ำมันไบโอดีเซล และลงทุนก่อสร้างถังเก็บวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูป จำนวน 6 ใบ มูลค่า 60 ล้านบาท เพื่อเพิ่มปริมาณความจุของถังเก็บวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูป 15.87 ล้านลิตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคม 2557 และซื้อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจาก 4 แสนลิตรต่อวันเป็น 5.5 แสนลิตรต่อวัน ใช้เงินลงทุน 10 ล้านบาท