ข่าวการเงินและการลงทุน - นายณรงค์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE ผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม และน้ำมันปาล์มโอเลอีนผ่านกรรมวิธี ตรา “พาโมลา” เปิดเผยถึงความมั่นใจ และพร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ โดยถือเป็นหุ้นใหม่ตัวแรกของปี 2557 ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับความสนใจและตอบรับที่ดีจากนักลงทุน หลังจากการเปิดจองซื้อในช่วงที่ผ่านมาก็ได้การตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุนที่แสดงความต้องการจองซื้อเกินกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรได้ ประกอบกับเชื่อว่านักลงทุนมองเห็นถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่จะมีการเติบโตในอนาคต ดังนั้นจึงน่าจะเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่นักลงทุนให้ความสนใจ

ภายหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ จะช่วยผลักดันให้ AIE มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งมากขึ้น จากการขยายธุรกิจและปรับปรุงประสิทธิภาพของเครื่องจักร อาทิ สร้างถังเก็บวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์เพิ่ม ลงทุนซื้อเครื่องจักรเพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพของการผลิตไบโอดีเซล เป็นต้น รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการขยายงานของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับกิจการและสร้างศักยภาพในการแข่งขันให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

ด้าน นายอนุรักษ์ ธารีรัตนาวิบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE กล่าวว่า หุ้น AIE จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะถือเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี มีทิศทางการเติบโตที่ชัดเจนในอนาคต โดยในปี 2557 นี้บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ระดับ 6,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการทำสัญญาซื้อขายน้ำมันไบโอดีเซลล่วงหน้ากับผู้ค้าเชื้อเพลิงรายใหญ่แล้ว

“เชื่อว่านักลงทุนจะให้การตอบรับหุ้น AIE อย่างล้นหลาม ด้วยธุรกิจที่มีศักยภาพ มีความมั่นคงจากนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนในเรื่องพลังงานทดแทน ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ มีปริมาณการขายน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าจะมีปริมาณการสั่งซื้อรวม 10-12 ล้านลิตรต่อเดือน และหลังจากที่บริษัทฯ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอแล้วจะส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตปีละ 20-30%” นายอนุรักษ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2557 บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาซื้อเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 5.5 แสนลิตรต่อวัน ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 1/2557 รวมถึงการก่อสร้างถังเก็บน้ำมันความจุ 2 ล้านลิตร เพิ่มอีกจำนวน 6 ถัง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต รองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น