ข่าวการเงินและการลงทุน - นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เปิดเผยผลประกอบการงวด 3 เดือนประจำไตรมาสที่ 3/2556 (กรกฎาคม-กันยายน 2556) ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทใหญ่สำหรับงวด 3 เดือน จำนวน 63.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 85.94 ล้านบาท หรือร้อยละ 379.93 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2555 ที่มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 22.62 ล้านบาท ส่งผลให้ในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2556 บริษัทฯมีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทใหญ่ จำนวน 82.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 38.98 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 89.26 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 43.67 ล้านบาท

สำหรับกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นเป็นผลมาจากในไตรมาสที่ 3/2556 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 1,323.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 31.3 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในไตรมาสที่ 3/2556 บริษัทฯ มีปริมาณการขายสินค้าจำนวน 80,872.73 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.64 รวมทั้งมีกำไรจากสินค้าคงเหลือ จึงทำให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเติบโตอย่างโดดเด่น ส่วนงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2556 บริษัทฯบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 3,298.51 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 13 เนื่องจากราคาขายในช่วงต้นปีมีการปรับตัวลดลงร้อยละ 15 อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงสามารถบริหารต้นทุนสินค้าได้เป็นอย่างดี โดยในช่วงไตรมาส 3 บริษัทฯ มีอัตราส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ในอัตราร้อยละ 8.7 ประกอบกับในระหว่างปีบริษัทฯได้รับคืนค่าสินไหมทดแทนจากเหตุไฟไหม้ รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินที่ดีขึ้นส่งผลให้บริษัทฯมีกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทใหญ่ เพิ่มขึ้น

นายอนาวิล กล่าวต่อว่าจากผลประกอบการในงวด 9 เดือนที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นดังกล่าว ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา ที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลเป็นเงินสดตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นจากกำไรสุทธิ จากผลประกอบการงวด 9 เดือนมกราคม-กันยายน 2556 ซึ่งเป็นกำไรสุทธิส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในอัตรา  0.10  บาทต่อหุ้น โดยจะจ่ายในวันที่ 4 ธันวาคม 2556

 “การจ่ายปันผลระหว่างกาลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นในครั้งนี้ถือเป็นการสานต่อปณิธานของคณะกรรมการและผู้บริหารที่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ในปี 2555 ที่ผ่านมาโรงงานของบริษัทฯ ประสบอุบัติเหตุเกิดไฟไหม้ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ และในปีนี้เมื่อสามารถสร้างผลประกอบการให้อยู่ในระดับที่สามารถตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้บริษัทฯ จึงดำเนินการทันที” นายอนาวิล กล่าว

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาสสุดท้ายของปี เราเชื่อว่าจะยังสร้างผลงานที่ดีได้ตามเป้าหมายเนื่องจากราคา Billet และความต้องการสินค้าในภาคธุรกิจยังอยู่ในระดับที่ดีโดยปัจจุบันได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และหากต้นทุนในการผลิตและราคาขายสินค้าเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางเดียวกันจะสนับสนุนให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) และอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) เคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่ดีในทิศทางเดียวกันด้วย ซึ่งในปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายปริมาณการขาย ไว้ที่ 250,000- 300,000 ตัน และยังเป็นไปได้ตามเป้าหมายที่วางไว้