FINANCE & INVESTMENT

เอกชนหลายรายสนใจลงทุนขยายระบบท่อน้ำมันเส้นเหนือ-อีสาน
POSTED ON 18/09/2558


การเงินการลงทุน - ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมธุรกิจพลังงานแจ้งว่า ทางกรมฯได้รายงานต่อ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เรื่องโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) โดยในส่วนของท่อน้ำมันส่วนต่อขยายเส้นทางภาคเหนือจะเริ่มที่บางปะอิน ผ่าน จ.กำแพงเพชร (จุดตั้งคลังน้ำมันอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมระหว่าง จ.กำแพงเพชร หรือ จ.พิษณุโลก) ไปสิ้นสุดที่ จ.ลำปาง หรือ จ.ลำพูน

 

ส่วนท่อน้ำมันส่วนต่อขยายเส้นทางภาคอีสานจะเริ่มต้นจาก จ.สระบุรี ผ่าน จ.นครราชสีมา (จุดตั้งคลังน้ำมัน) ไปสิ้นสุดที่ จ.ขอนแก่น และเป็นจุดตั้งคลังน้ำมันด้วย โดยปัจจุบันมีเอกชนหลายรายให้ความสนใจเสนอเป็นผู้พัฒนาโครงการฯ ซึ่งทาง ธพ. จะรวบรวมข้อมูลและเตรียมเสนอกระทรวงพลังงานต่อไป

 

สำหรับโครงการนี้เป็นโครงการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งน้ำมันของประเทศ รองรับการขยายตัวด้านการใช้น้ำมันในภูมิภาคอาเซียน และยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย ในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานของภูมิภาค ลดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการขนส่ง ลดปัญหาด้านอุบัติเหตุ รวมถึงแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยโครงการดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2558 ที่ผ่านมา ที่มีมติเห็นชอบให้ผู้ประกอบการรายเดิม หรือผู้ค้าน้ำมัน หรือเอกชนรายอื่น เป็นผู้ดำเนินการพัฒนาโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนือและภาคอีสาน เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเสรี

 

ปัจจุบัน การขนส่งน้ำมันทางท่อดำเนินการโดยเอกชน 2 ราย ได้แก่ (1) บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) ซึ่งมีท่อจากโรงกลั่นบางจากและคลังน้ำมันช่องนนทรี มายังดอนเมือง ไปสิ้นสุดที่บางปะอิน และ (2) บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด (THAPPLINE) ซึ่งดำเนินการท่อส่งน้ำมันจาก จ.ระยอง มายังศรีราชา ลำลูกกา ไปสิ้นสุดที่ จ.สระบุรี

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics