FINANCE & INVESTMENT

โซลาร์ฟาร์มของ CHOW ในญี่ปุ่น จ่ายไฟฟ้าเพิ่มเข้าระบบอีก 1.2MW
POSTED ON 17/09/2558


การเงินการลงทุน - นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (CE) บริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจพลังงาน ในเครือบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ผลิตและจำหน่ายเหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Farm) เฟสแรกในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งลงทุนผ่านบริษัทย่อย มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 18 เมกะวัตต์ ว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2558 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์โครงการอิบารากิ (Ibaraki) ขนาดกำลังการผลิต 1.20 เมกะวัตต์ (DC) ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอิบารากิ ประเทศญี่ปุ่น ได้เชื่อมต่อสายส่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) กับการไฟฟ้าญี่ปุ่นเพิ่มอีก 1 โครงการ ซึ่งจะรับรู้รายได้ทันทีในเดือนเดียวกันนี้เป็นต้นไป

 

สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิบารากิ ถือเป็นโครงการที่ 3 ของ CHOW ที่จ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้โรงไฟฟ้าโครงการเกียวแทงโก (Kyotango) กำลังการผลิต 4.019 เมกะวัตต์ (DC) ตั้งอยู่ที่เกียวโต และโครงการโออิตะ (Oita) ขนาดกำลังการผลิต 3.2604 เมกะวัตต์ (DC) ตั้งอยู่ในจังหวัดโออิตะ ประเทศญี่ปุ่น ได้จ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ปัจจุบัน CHOW มีโครงการโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์แล้วจำนวน 8.4794 เมกะวัตต์ จากการลงทุนเฟสแรกจำนวน 18 เมกะวัตต์ โดยมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและรอการเชื่อมต่อสายส่ง 1 โครงการ คือ โครงการไซโตะ จังหวัดมิยะซะกิ ขนาด 2.388 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออีก 7.1326 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้าง และจะจำหน่ายไฟฟ้าได้ในปี 2558 ตามเป้าหมายที่วางไว้

 

ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นเฟสแรกขนาด 18 เมกะวัตต์ บริษัทฯได้ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัท พรีเมียร์ โซลูชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย พัฒนาโครงการอย่างครบวงจรทั้งการจัดหาที่ดิน ใบอนุญาตต่างๆ ที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายไฟฟ้า แผงพลังงานแสงอาทิตย์ ตลอดจนอุปกรณ์ต่างๆ และการก่อสร้างที่เกี่ยวข้อง โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้ง 18 เมกะวัตต์ มีใบอนุญาตขายไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่การไฟฟ้าฯ ของประเทศญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว ที่ราคา 40 เยนต่อหน่วย เป็นเวลา 20 ปี

 

นายอนาวิล กล่าวว่า "หลังจากนี้ บริษัทฯพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นคู่ขนานกันไปทั้งเฟสแรกที่อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการอีก 7.1326 เมกะวัตต์และเฟสที่ 2 ที่คณะกรรมการของบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) ได้อนุมัติให้ลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 15 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าโครงการประมาณ 1,215 ล้านบาท เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นยังต้องการใช้ไฟฟ้าจากโครงการพลังงานทดแทนอีกเป็นจำนวนมาก และบริษัทฯมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจนี้เป็นอย่างดี โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในประเทศญี่ปุ่นใน 3 รูปแบบ คือ (1) ลงทุนด้วยตัวเองผ่านบริษัทย่อย โดยเริ่มเฟสแรกที่ขนาด 18 เมกะวัตต์ดังกล่าว (2) พัฒนาโครงการเพื่อขายให้กับพันธมิตร ซึ่งขณะนี้ได้พัฒนาโครงการรวมทั้งสิ้น 87 เมกะวัตต์ และ (3) ลงทุนร่วมกันพันธมิตรจำนวน 40 เมกะวัตต์ และในปีนี้มีนโยบายจะขยายการลงทุนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในเฟส 2 หลังจากที่เฟสแรกเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟแล้ว"

 

"การมุ่งลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ก็เพื่อสานต่อปณิธานของคณะกรรมการบริษัทฯ CHOW ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ ก่อให้เกิดรายได้และกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ซึ่งสนับสนุนให้ผลประกอบการของ CHOW เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคต สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว โดยคาดว่าตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป CHOW จะรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจพลังงานผ่านบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด อย่างเต็มตัว" นายอนาวิล กล่าว

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics