FINANCE & INVESTMENT

เอกชนจีน สนใจร่วมลงทุนธุรกิจโรงงานผลิตปุ๋ยในไทย
POSTED ON 07/07/2558


การเงินการลงทุน - นายสุรพงษ์ เชียงทอง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงอุตสาหกรรมออกประทานบัตรเหมืองแร่โปแตชแห่งแรกในประเทศไทยให้กับบริษัท เหมืองแร่โปแตชอาเซียน จำกัด จ.ชัยภูมิ และออกอาชญาบัตรสำรวจแร่ให้กับนักลงทุนชาวจีน 2 ราย ขณะนี้นักลงทุนจีนจากยูนนานสนใจจะเข้ามาร่วมลงทุนธุรกิจผลิตแม่ปุ๋ย โดยจะเข้าร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการที่ได้อาชญาบัตรแล้วคือ บริษัท โรงปังไมนิ่ง จำกัด จ.นครราชสีมา ซึ่งคาดว่าจะยื่นขอประทานบัตรทำเหมืองแร่ในอีกไม่นานนี้

 

"นักลงทุนจีนยูนนานมองเห็นศักยภาพการลงทุนในไทยที่มีความพร้อมในการผลิตปุ๋ย เนื่องจากมีแร่ธาตุหลักครบถ้วน หากการร่วมลงทุนประสบความสำเร็จคาดว่าการลงทุนสร้างโรงปุ๋ยเฟสแรกจะมีกำลังการผลิต 50,000 ตันต่อปี และขยายกำลังการผลิตได้สูงสุด 1-2 ล้านตันต่อปี วงเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท" นายสุรพงษ์ กล่าว

 

ทั้งนี้ แม้ว่าพื้นที่ยูนนานประเทศจีนจะมีศักยภาพในการผลิตแร่ฟอสเฟตอย่างมาก แต่จำเป็นต้องใช้แร่โปแตชเพื่อผลิตธาตุโพแทสเซียมจากประเทศไทย ส่วนธาตุไนโตรเจนนั้นสามารถผลิตได้จากอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้อยู่แล้ว เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี เป็นต้น

 

นอกจากนี้ กพร.ยังมีแนวคิดฟื้นโครงการเหมืองแร่แก้ภัยแล้ง ซึ่งจะพัฒนาบ่อน้ำในเหมืองแร่เก่า ซึ่งเคยถูกใช้เป็นแหล่งเก็บน้ำเพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง กลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับชุมชนอีกครั้ง โดย กพร.จะเสนอขอความร่วมมือไปยังองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในแต่ละพื้นที่ช่วยสำรวจมาว่า หากพื้นที่ใดมีความต้องการใช้น้ำและมีเหมืองแร่เก่าในพื้นที่มีความสามารถในการกักเก็บน้ำไว้ได้หรือมีน้ำเหลือในบ่อหรือไม่ หากมีก็ให้ประสานมายัง กพร.เพื่อที่จะได้ติดต่อไปยังผู้ประกอบการนำการเพื่อขอนำแหล่งที่กักเก็บน้ำอยู่เหมืองนำมาไปใช้เป็นสาธารณประโยชน์และใช้การเกษตรต่อไป

 

"สำหรับบ่อน้ำในเหมืองเก่าที่จะนำใช้ประโยชน์นั้นส่วนใหญ่จะเป็นน้ำที่ค้างอยู่ในเหมืองหินและโรงโม่บดย่อยหินที่หมดอายุสัมปทานไปแล้ว ซึ่งเป็นน้ำที่ไม่มีสารพิษตกค้างและนำมาใช้ในภาคเกษตรกรรมได้ โดยโครงการนี้เคยมีมาแล้วเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ในปีนี้เป็นปีที่มีวิกฤตภัยแล้ง ก็คิดว่าน้ำที่ค้างในเหมืองเก่าน่าจะนำมาใช้ประโยชน์ได้ เพียงแต่ขอให้แจ้งมาว่าอยู่ในพื้นที่ใดบ้าง" นายสุรพงษ์ กล่าว