การเงินการลงทุน - นายพสุ โลหารชุน อธิบดี กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กล่าวว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2557 นี้มียอดขออนุญาตประกอบกิจการใหม่ 447 โรงงาน เพิ่มขึ้น 16.41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ 36,531.28 ล้านบาท ลดลง 12.10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนยอดขยายกิจการอยู่ที่ 74 โรงงาน เพิ่มขึ้น 25.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่าการลงทุน 11,108.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ในช่วงเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2557 มียอดขออนุญาตประกอบกิจการใหม่และขยายกิจการรวม 4,972 โรงงาน มูลค่าการลงทุนรวม 489,467.25 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาที่มียอดรวม 451,073.83 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.84%

สำหรับอุตสาหกรรมที่มียอดขอประกอบกิจการใหม่สูง ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์โลหะ ผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งซ่อมแซมยานพาหนะ แปรรูปไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ เครื่องเรือน ตกแต่งภายใน ขณะที่ยอดขยายกิจการตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน อยู่ที่ 720 โรงงาน โดยอุตสาหกรรมที่ขยายมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหาร พลาสติก และผลิตภัณฑ์จากพืช ซึ่งเฉพาะเดือนพฤศจิกายน 2557 โรงงานที่มีเงินลงทุนสูงสุด คือ โรงงานน้ำตาล มูลค่าลงทุน 9,971 ล้านบาท โรงงานไฟฟ้าพลังงานลม 8,692 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน 4,864 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีโรงงานไฟฟ้ากำลังการผลิต 2-8 เมกะวัตต์ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุญาตอีก 12 โรงงาน ซึ่งหากอนุญาตก็จะมีเงินลงทุนรวมประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ มูลค่าการลงทุนของผู้ประกอบการที่ขออนุญาตประกอบกิจการใหม่และขยายกิจการเกิน 5 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% จากปี 2556 ที่มีมูลค่า 4.9 แสนล้านบาท เนื่องจากผู้ประกอบการกลับมามีความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้น ขณะที่มีผู้ประกอบการขอยกเลิกกิจการเพิ่มขึ้น 13.61% คิดเป็นมูลค่า 2.97 หมื่นล้านบาท ส่วนปี 2558 คาดยอดขออนุญาตประกอบกิจการใหม่และขยายกิจการน่าจะเติบโตได้ 5-10%

ที่มา : แนวหน้า