FINANCE & INVESTMENT

จีนเชื่อมั่นอุตฯอาหารไทย โอกาสขยายตลาดเปิด
POSTED ON 21/10/2557


การเงินการลงทุน - ดร.อรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมไทยรองรับการรวมกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และรวมถึง AEC+3 กรมฯ จึงมอบหมายให้สำนักพัฒนาการจัดการอุตสาหกรรมเร่งให้การพัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมคลัสเตอร์ด้วยการฝึกอบรมเชิงลึกในด้านต่างๆ รวมถึงการนำคณะผู้ประกอบการไทยจำนวนกว่า 20 ราย นำสินค้าไปทดสอบตลาด พร้อมจัดแสดงและจำหน่ายในงานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียนครั้งที่ 11 (China-ASEAN Expo:CAEXPO) ในช่วงเดือน ก.ย. 2557 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์แสดงสินค้านานาชาตินครหนานหนิง เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน

 

ด้าน นายมาณพ ชิวธนาสุนทร ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาการจัดการอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า "งานดังกล่าวเป็นงานแสดงสินค้ายิ่งใหญ่ประจำปีของประเทศจีนและอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับมิตรและขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้า การลงทุน รวมถึงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมระหว่างกันในภูมิภาคอาเซียนและจีน โดยในปีนี้ กสอ.พาผู้ประกอบการของไทยกลุ่มคลัสเตอร์ไปจัดแสดงและจำหน่ายในงานแสดงสินค้าดังกล่าว บริเวณโซนการค้า (Pavilion of Commodity Trade) ทั้งหมด 25 ราย แบ่งเป็นคลัสเตอร์เครื่องหนัง สิ่งทอเพชรเกษม นวัตศิลป์บางกอก และอาหาร

 

โดยมีบริษัทที่ไปร่วมงาน อาทิ บริษัท เอส.ที. ซีสตาร์ เลทเธอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องหนังและรองเท้า, อัจฉราไข่วิจิตร ผู้ผลิตหัตถกรรมจากเปลือกไข่, บริษัท บางกอก ซีทีวี อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตกระเป๋าผ้า, บริษัท เอส.ซี.ฟู้ดแอนด์เบเวอร์เรจฯ ผู้ผลิตเครื่องดื่ม ที-เซเว่น และกลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมหวานเพชรบุรี เป็นต้น

 

จากกระแสความไม่เชื่อมั่นของชาวจีนที่มีต่อสินค้าอาหารที่ผลิตภายในประเทศ ส่งผลให้พฤติกรรมการบริโภคของชาวจีนเปลี่ยนไป และหันมานิยมบริโภคอาหารนำเข้าจากต่างชาติมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าจากไทย เนื่องจากชาวจีนมองว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดีและมีราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับสินค้านำเข้าจากประเทศอื่นๆ อาทิ ประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

 

"สำหรับการนำผู้ประกอบการไปเจรจาครั้งนี้ คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการรวมกว่า 20 ล้านบาท และมั่นใจได้ว่าการนำผู้ประกอบการไปเจรจาครั้งนี้จะเป็นใบเบิกทางที่ดีที่จะสามารถเจาะตลาดจีนในเมืองอื่นๆ ที่มีจำนวนประชากรรวมกว่า 1,357 ล้านคน ได้อย่างแน่นอน" นายมาณพ กล่าว

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ