FINANCE & INVESTMENT

บีโอไอ พานักธุรกิจไทยลุยกัมพูชา-เวียดนาม เล็งลงทุนอุตฯเกษตร
POSTED ON 09/09/2557


การเงินการลงทุน - นางศิริพร นุรักษ์ ผู้อำนวยการระดับสูง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 20-24 กันยายน 2557 บีโอไอจะจัดกิจกรรมนำนักธุรกิจไทยเดินทางไปประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนามตอนใต้ เพื่อศึกษาโอกาสและลู่ทางการลงทุนโดยเฉพาะสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป และเครื่องจักรกลทางการเกษตร ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีศักยภาพและมีความพร้อมรองรับการลงทุนจากในสองสาขานี้เป็นอย่างมาก

 

ทั้งนี้ รูปแบบของกิจกรรมจะเน้นการเดินทางโดยรถยนต์จากด่านอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ผ่านไปยังเส้นทางเศรษฐกิจของกัมพูชา เชื่อมต่อไปยังเวียดนามตอนใต้ ซึ่งบีโอไอจะจัดให้ข้อมูลด้านการลงทุนที่น่าสนใจเพื่อให้นักธุรกิจสามารถศึกษาโอกาสและศักยภาพของการลงทุนในแต่ละพื้นที่ที่มีความสำคัญ อาทิ กิจกรรมนักธุรกิจไทย พบปะหารือกับนักธุรกิจและหอการค้าจังหวัดพระตะบอง และ จังหวัดกัมปงจาม ร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการลงทุนของนักธุรกิจไทยที่ได้เข้าไปลงทุนในกรุงพนมเปญ

 

นอกจากนี้ นักธุรกิจไทยจะได้เข้าพบกงสุลใหญ่และฑูตพาณิชย์ประจำกรุงโฮจิมินห์ รวมถึงพบหารือกับนักธุรกิจ และเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมโฮจิมินห์ เยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรม Cambodia Manhattan Special Economic Zone ในจังหวัดสวายเรียง ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชายแดนระหว่างกัมพูชาและเวียดนาม โดยนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว มีความทันสมัย และโดดเด่นในด้านการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ เกษตรแปรรูป ปัจจุบันได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศเข้าไปลงทุนในพื้นที่จำนวนมาก

 

"กิจกรรมครั้งนี้ นับเป็นโครงการศึกษาเมืองอุตสาหกรรมด้านการเกษตรที่สำคัญ ดังนั้นนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและเครื่องจักรกลทางการเกษตร จึงจะได้ประโยชน์จากการร่วมเดินทางในครั้งนี้มาก เนื่องจากสามารถเยี่ยมชมและศึกษาตลาดของพื้นที่ที่จะผ่านได้โดยตรง ทั้งการเยี่ยมชมศักยภาพของจังหวัดพระตะบอง ซึ่งถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ เพราะเป็นแหล่งปลูกข้าวอันดับหนึ่งของกัมพูชา จังหวัดกัมปงจาม ที่ได้ชื่อว่ามีศักภาพในด้านการเป็นเมืองเพาะปลูกทั้งยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเหลือง และมันสำปะหลังสำคัญของกัมพูชา ขณะเดียวกันการเข้าเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดสวายเรียง ซึ่งเชื่อมต่อไปยังเวียดนาม นักธุรกิจจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการขยายธุรกิจ หรือเข้าไปตั้งฐานการผลิตในพื้นที่ที่มีศักยภาพที่จะขยายตลาดการผลิตสินค้าในอาเซียนและเวทีที่ใหญ่ขึ้นต่อไป" นางศิริพร กล่าว