FINANCE & INVESTMENT

ICHI เข้าเทรดวันแรก เสียงตอบรับดี มั่นใจควบคุมต้นทุนผลิตมีประสิทธิภาพ ทำกำไรได้สูง
POSTED ON 17/04/2557


 

ข่าวการเงินการลงทุน - นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI  เปิดเผยถึงการซื้อขายหุ้น ICHI วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 21 เมษายน 2557 มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับดีจากนักลงทุน ทำให้สามารถยืนเหนือราคาจองที่ 13 บาทต่อหุ้นได้ เหตุเพราะธุรกิจชัดเจนมีความใกล้ชิดผู้บริโภค ประกอบกับการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียวที่มีทิศทางการเติบโตโดดเด่น ภายในเวลาเพียง 2 ปี สามารถก้าวขึ้นสู่ผู้นำตลาดชาพร้อมดื่มอันดับ 1 ในปี 2556 มีส่วนแบ่งสูงถึง 42%   

 

อิชิตันให้ความสำคัญในประสิทธิภาพการทำกำไรในอัตราสูง จากการควบคุมต้นทุนการผลิตและบริหารงบประมาณการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถทำกำไรเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยในปี 2556 มีอัตรากำไรเบื้องต้นอยู่ที่ 14% และคาดว่าในปีนี้อัตรากำไรเบื้องต้นจะมีแนวโน้มสูงขึ้น ตามสัดส่วนการปรับลดการว่าจ้างผลิต (OEM) ที่เดิมมีสัดส่วน 25% และกำลังจะลดลงเนื่องจากโรงงานเฟส 2 จะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส 2/2557 และจะส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตแบบขวดเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านขวดต่อปีและ 200 ล้านกล่องต่อปี (จากเดิม 600 ล้านขวดต่อปี และ 200 ล้านกล่องต่อปี) บริษัทยังมีแผนเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อเตรียมพร้อมการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาโอกาสในการลงทุน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในอนาคต

 

สำหรับผลประกอบการประจำปี 2556 อิชิตันมีรายได้จากการขาย 6,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,577ล้านบาท (เติบโต 65.96%) มีกำไรสุทธิ 884 ล้านบาท (ไม่รวมรายการจากอุทกภัยและการดำเนินงานที่ยกเลิก) เพิ่มขึ้น 578 ล้านบาท (เติบโต 188.89%) 

 

“ผมมั่นใจว่าหุ้น ICHI จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนจนยืนเหนือราคาจอง ส่วนหนึ่งเชื่อว่าราคาขาย IPO 13 บาท เป็นราคาที่น่าสนใจ โดยราคาดังกล่าวคิดเป็นส่วนลดให้กับนักลงทุนถึง 36% อีกทั้งได้รับความสนใจจากนักลงทุนมียอดจองหุ้นจนล้นเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ อิชิตันมีนโยบายจะจ่ายเงินปันผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่องในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทำให้เข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเพิ่มเติมเพื่อลงทุนหวังผลตอบแทนในระยะยา ที่สำคัญที่สุดคือทีมบริหารมั่นใจหลังเข้าทำการซื้อขาย ICHI จะไม่ทำให้ผู้ลงทุนผิดหวัง” นายตัน กล่าว    

 

นายตัน เสริมว่า กลุ่มตนเอง และ นางอิง ภาสกรนที คือกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมรายใหญ่สุด มีสัดส่วนการถือหุ้น 60.4% ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ปริมาณหุ้นที่ต้อง silent ช่วง Silent Period ขั้นต่ำ 55% โดยหุ้นของกลุ่มตนเองและคุณอิง ภาสกรนที 51.0% ติด Silent Period ถูกห้ามขายเป็นระยะเวลา 1 ปี ส่วนอีก 4% ที่เหลือที่ติด Silent Period เป็นของผู้บริหารท่านอื่น ซึ่งกลุ่มตนเองและคุณอิงและผู้บริหารท่านอื่นมีความตั้งใจจะถือหุ้นทั้งหมดในระยะยาวและไม่มีแผนจะลดสัดส่วนการถือหุ้นอย่างแน่นอน 

 

ทั้งนี้  ICHI จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท หรือคิดเป็น 23.1% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหลักทรัพย์ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 1.3 พันล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1.3 พันล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยเป็นทุนชำระแล้วจำนวน 1 พันล้านบาท เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จำนวน 3,900 ล้านบาท จะนำไปขยายโรงงานเฟส 2 และเป็นเงินหมุนเวียนในธุรกิจจำนวน 1,400 ล้านบาท ชำระหนี้เงินกู้กรรมการและสถาบันการเงิน จำนวน 2,500 ล้านบาท