FINANCE & INVESTMENT

TAE ระดมทุนสร้างโรงไฟฟ้าชีวภาพ คาดเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ภายในปีนี้
POSTED ON 09/04/2557


 

ข่าวการเงินการลงทุน - นายสมชาย โล่ห์วิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TAE เปิดเผยว่าตามที่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทคือ บริษัท ลานนา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ LANNA ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 75.75 มีนโยบายในการนำ TAE ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Spin-Off) เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจของ TAE ในอนาคต

 

ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้นับหนึ่งแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา

 

บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TAE เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเอทานอลสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิต 365,000 ลิตรต่อวัน ถือเป็นผู้ผลิตที่มีกำลังการผลิตมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ  บริษัทฯ ถือเป็นผู้เผลิตและจำหน่ายเอทานอลเพื่อการพาณิชย์เป็นรายแรกของประเทศ ประกอบกับเอทานอลที่บริษัทฯผลิตได้มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.8% ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่กำหนดโดยกรมธุรกิจพลังงาน ทำให้ได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจจากผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของประเทศไม่ว่าจะเป็น PTT, BCP, ESSO, TOP

 

ในปี 2556 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,659.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีรายได้จากการขาย 1,349.86 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 22.91 โดยมีกำไรสุทธิ 165.50 ล้านบาท ในปี 2555 และ 117.68 ล้านบาท ในปี 2556 สำหรับเงินที่ระดมทุนได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเงินไปลงทุนก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซชีวภาพขนาด 3 เมกะวัตต์ สำหรับใช้ในโรงงานผลิตเอทานอลของบริษัทฯ ซึ่งแบ่งเป็น 2 เฟส เฟสที่ 1 ก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซชีวภาพขนาด 1 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ภายในไตรมาส 3 ปี 2557 และเฟสที่ 2 ก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซชีวภาพขนาด 2 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ภายในปี 2557

 

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะนำเงินส่วนที่เหลือไปชำระคืนเงินกู้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนด้วย โดยบริษัทฯ มีนโยบายในการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินของบริษัทฯ

 

ด้าน นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดย สำนักงาน ก.ล.ต.ได้นับหนึ่งไฟลิ่งของบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในไตรมาส 2 นี้

 

บริษัทฯจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 200,000,000 หุ้น รวมกับหุ้นสามัญเดิมที่บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ถืออยู่จำนวน 96,037,733 หุ้น รวมเป็นจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ทั้งสิ้น 296,037,733 หุ้น แบ่งเป็นการให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นของ LANNA  ตามสัดส่วนการถือหุ้น จำนวนไม่เกิน 105,037,733 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 10.50 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ และการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนจำนวน 191,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 19.10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้

 

“บมจ.ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ หรือ TAE มีความพร้อมเข้าจดทะเบียนใน SET ในหมวด พลังงาน ซึ่งถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพและมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเอทานอลสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงอันดับต้นๆ ของประเทศ และมีลูกค้าเป็นผู้ค้านำมันรายใหญ่ของประเทศ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้จากการขายของบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 29.71 ต่อปี เมื่อผนวกกับศักยภาพการเติบโตของรายได้ในอนาคตจากมาตรการส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ของภาครัฐตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก 25% ใน 10 ปี (พ.ศ.2555-2564) (AEDP) ของกระทรวงพลังงาน ซึ่งมีเป้าหมายการผลิตเอทานอล 9 ล้านลิตรต่อวัน ในปี 2564 จะช่วยส่งผลให้ผลยอดขายของบริษัทฯ เติบโตอย่างมั่นคง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในด้านการประหยัดต้นทุนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการนำนำเสียจากกระบวนการผลิตมาผลิตเป็นก๊าซชีวภาพเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิต รวมทั้งโครงการก่อสร้างระบบผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ซึ่งจะช่วยประหยัดต้นทุนไฟฟ้าให้แก่บริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ”

 

ปัจจุบัน บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และมีทุนเรียกชำระแล้ว 800 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 800 ล้านหุ้น โครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ ประกอบด้วย บริษัท ลานนา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ LANNA ถือหุ้นร้อยละ 75.75 กลุ่มลิ้มวัฒนะกูร ถือหุ้นร้อยละ 4.56 และกลุ่มจตุรพฤกษ์ ถือหุ้นร้อยละ 4.69 โดยภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรียบร้อย LANNA ลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือร้อยละ 51 กลุ่มลิ้มวัฒนะกูร ลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือร้อยละ 3.64 และกลุ่มจตุรพฤกษ์ ลดสัดส่วนการถือหุ้นเหลือร้อยละ 3.75 ที่เหลือเป็นประชาชนทั่วไป