FACTORY VISIT

BIG โชว์คอมเพล็กซ์ก๊าซอุตสาหกรรมครบวงจร พร้อมลงทุนรับอีอีซี
POSTED ON 18/10/2561


Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

 

 

บีไอจี (BIG) ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมของไทย พร้อมลุยขยายธุรกิจรับการเติบโตของอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี เปิดบ้านโชว์ประสิทธิภาพเทคโนโลยีและนวัตกรรมโรงแยกอากาศแห่งที่ 3 (BIG 3) คอมเพล็กซ์ก๊าซอุตสาหกรรมด้วยกำลังการผลิตกว่า 530,000 ตันต่อปีในนิคมฯ เหมราชชลบุรี

 

นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือ บีไอจี (BIG) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้นำคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมโรงแยกอากาศแห่งที่ 3 หรือ Integrated Industrial Gas Complex ซึ่งเป็นคอมเพล็กซ์ก๊าซอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี จ.ชลบุรี เป็นโรงแยกอากาศที่ดำเนินงานด้วยเทคโนโลยีและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดระดับโลกจากบริษัทแม่ แอร์โปรดักส์ แอนด์ เคมิคัลส์ อิงค์ (AP) ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในกลุ่มฟอร์จูน 500 และได้รับคัดเลือกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ติดต่อกัน 9 ปี

 

 

ด้วยความเป็นผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมครบวงจรของไทยมากว่า 30 ปี บริษัทฯ มีความพร้อมทั้งทางด้านเทคโนโลยีการผลิตและบริการที่ครบวงจรสำหรับต่อยอดโอกาสในการลงทุน รองรับการเติบโตของภาคการผลิตและสถานประกอบการในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (EEC) และส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0

 

ปัจจุบันโรงแยกอากาศแห่งนี้มีขนาดกำลังการผลิตก๊าซอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศด้วยกำลังการผลิตกว่า 1,400 ตันต่อวัน หรือ 530,000 ตันต่อปี แบ่งเป็น (1) การผลิตไนโตรเจนเพื่อป้อนอุตสาหกรรมเหล็ก อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม จำนวน 200,000 ตันต่อปี (2) การผลิตออกซิเจนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเหล็ก กระจก การแพทย์ รวมถึงการนำไปใช้ในระบบบำบัดน้ำเสีย จำนวน 300,000 ตันต่อปี และ (3) การผลิตอาร์กอนสำหรับการเชื่อมโลหะเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้าง อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 11,000 ตันต่อปี

 

 

สำหรับกระบวนการผลิตดังกล่าวเป็นนวัตกรรมการนำอากาศมาแยกเป็นก๊าซต่าง ๆ ผ่านการลดอุณหภูมิในหอกลั่นจนได้ผลิตภัณฑ์ทั้งในรูปของก๊าซและของเหลว สำหรับส่งให้กับลูกค้าทางท่อภายในนิคมและทางรถบรรทุกก๊าซจัดส่งทั่วประเทศ ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ร่วมกับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม ภายใต้แคมเปญ Infinite Innovation เพื่อรองรับการบริหารจัดการการใช้งานก๊าซอุตสาหกรรมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและทราบข้อมูลแบบ Real-Time ด้านการใช้งาน ปริมาณสินค้าคงคลัง และสถานะการจัดส่งก๊าซได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก และตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าที่ใช้ก๊าซอุตสาหกรรม สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจยุคดิจิทัลในปัจจุบันได้อย่างแท้จริง

 

“ก๊าซอุตสาหกรรม ถือเป็นหัวใจหลักต่อภาคอุตสาหกรรมที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน และยังมีแนวโน้มการเติบโตตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในอีอีซีซึ่งโรงงานส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ก๊าซอุตสาหกรรมในการผลิตเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่สามารถเพิ่มมูลค่า เป็นไปตามแนวทางของรัฐบาลที่มุ่งยกระดับสินค้าไทย ทั้งในด้านการสร้างความแตกต่างและการสร้างคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” นายปิยบุตร กล่าว

 

 

ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตก๊าซอุตสาหกรรมรวมทั้งสิ้น 1.5 ล้านตันต่อปี มีโรงแยกอากาศตั้งอยู่ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ใน 2 จังหวัด คือ ชลบุรี และ ระยอง โดยที่ผ่านมาได้มีการขยายการให้บริการในรูปแบบต่าง ๆ ด้วยการใช้ระบบเทคโนโลยีในการควบคุมการผลิตจากศูนย์ควบคุมการผลิตภายในโรงแยกอากาศแห่งที่ 3 การให้บริการหน่วยผลิตก๊าซเคลื่อนที่ และผลิตภัณฑ์ก๊าซแบ่งบรรจุที่มีโรงงานแบ่งบรรจุก๊าซเป็นของตนเอง (Packaged Gases Filling Plant) รวมทั้งการติดตั้งถังบรรจุก๊าซขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในสถานประกอบการที่มีความต้องการใช้ก๊าซอุตสาหกรรมต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และโรงพยาบาล เป็นต้น

 

สำหรับโรงแยกอากาศแห่งที่ 3 (BIG 3) เปิดดำเนินการในเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ปี 2541 และมีการขยายกำลังการผลิตไนโตรเจนเพิ่มขึ้นในส่วนต่อขยายอีกจำนวน 150,000 ตันต่อปี ในปี 2558 ที่ผ่านมา ทำให้เป็นโรงแยกอากาศที่มีกำลังการผลิตสูงที่สุดในประเทศไทย