FACTORY VISIT

นาปางคูณเซรามิค ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาอุตฯ เซรามิกลำปาง พัฒนากระบวนการผลิต ลดของเสีย
POSTED ON 29/11/2556


 

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ผลักดันนโยบายช่วยเหลือผู้ประกอบการเซรามิกขนาดเล็กให้สามารถแข่งขันในตลาดอาเซียนได้ หลังเจอสภาวะต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น ค่าแรง 300 บาท การปรับราคาของแก๊สในภาคอุตสาหกรรม และความผันผวนของค่าเงินบาท

 

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเซรามิกในประเทศไทยมีจำนวนกว่า 739 ราย โดยมีฐานการผลิตหลักอยู่ที่จังหวัดลำปาง ราชบุรี สระบุรี เชียงใหม่ สมุทรสาคร และสุโขทัย ฯลฯ โดยในปี 2555 มีมูลค่าการส่งออกเซรามิกทั่วประเทศกว่า 18,139.9 ล้านบาท และกว่า 70% ของผู้ประกอบการที่ส่งออกอยู่ในจังหวัดลำปาง ซึ่งมีโรงงานผลิตกว่า 200 โรงงาน มีแรงงานรวมกันกว่า 9,000 คน และมีเงินลงทุนรวมกว่า 2,450 ล้านบาท สามารถผลิตเพื่อการบริโภคทั้งภายในประเทศและส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศนำรายได้เข้าประเทศและท้องถิ่น

 

ในปี 2555 ลำปางมีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 2,000 ล้านบาท และมีตลาดหลักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และในแถบอาเซียน แต่เนื่องจากสภาวะต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ ราคาแก๊ส และค่าเงินบาท ฯลฯ ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวด้านการลดต้นทุน การสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ และเพิ่มช่องทางการตลาด

 

ดังนั้น กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จึงเร่งให้การส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมเซรามิกอย่างครบวงจร ภายใต้การขับเคลื่อนของศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมเซรามิก จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลอุตสาหกรรมเซรามิกแห่งแรกของประเทศไทย โดยก่อตั้งเมื่อปี 2535

 

นายกอบชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ยุทธศาสตร์ปี 2560 ในการสร้างและพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมให้เติบโตและสามารถแข่งขันได้มีแผนการยกระดับขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมแก่ผู้ประกอบการเซรามิก ผ่านโครงการกว่า 40 โครงการหลักของ กสอ. โดยเข้าไปส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเกิดความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับ AEC ผ่านโครงการพัฒนาการรวมกลุ่มพันธมิตรวิสาหกิจ ที่มีการรวมกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรองทางการค้า การลงทุน รวมทั้งการจับคู่ทางธุรกิจ กับผู้ประกอบการในประเทศกัมพูชา ลาว พม่า มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก

 

กสอ. ตั้งเป้าให้ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าเซรามิกและหัตถอุตสาหกรรม จังหวัดลำปาง เป็นแหล่งศูนย์กลางการพัฒนาเซรามิกที่ครบและสมบูรณ์แบบที่สุดในอาเซียน ตลอดจนตั้งเป้าในการนำนวัตกรรมมาใช้ในการควบคุมการผลิต และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างจุดเด่นให้เซรามิกของไทย

 

 

นาปางคูณเซรามิคหนึ่งในผู้ประกอบการเซรามิกในลำปาง

 

บริษัท นาปางคูณเซรามิค จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2550 ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เซรามิกตกแต่งบ้าน ผลิตภัณฑ์เซรามิกสำหรับใช้ในห้องน้ำ สปา ครัวเรือน และแจกันต่างๆ เป็นต้น จากประสบการณ์ที่มีมากกว่า 3 ทศวรรษ ทำให้บริษัทฯ มีความโดดเด่นด้านการออกแบบลวดลายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ รวมไปถึงความหลากหลายทางผลิตภัณฑ์ ทำให้สามารถส่งออกได้ไกลยังต่างประเทศ โดยมีตลาดหลัก ได้แก่ ญี่ปุ่น อังกฤษ อิตาลี ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา ซึ่งยอดสั่งผลิตกว่า 2,000ชิ้น/เดือน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เซรามิกสำหรับใช้ในสปาที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก อาทิ ตะเกียงน้ำมันหอม ที่ใส่ธูปหอม ที่ใส่สบู่และน้ำมันหอมระเหย เป็นต้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานกว่า 50 คน

 

บริษัทฯ ให้ความสำคัญในเรื่องการควบคุมคุณภาพของสินค้าและกระบวนการผลิตเซรามิก เพื่อให้ถูกต้องตามมาตรฐานสูงสุดของอุตสาหกรรม มีการคิดค้น วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์เซรามิกอย่างต่อเนื่องและเต็มศักยภาพ จึงมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์จากนาปางคูณทุกชิ้นจะเต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ

 

นายเรวัตร ไชยยารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นาปางคูณเซรามิก จำกัด ผู้ผลิตเซรามิกรายใหญ่ของลำปาง กล่าวว่า บริษัทฯ ผลิตเซรามิกมากว่า 30 ปี มีจำนวนพนักงานกว่า 50 คน และยังได้รับรางวัลการันตีทั้งรางวัลผลงานดีเด่นงานแสดงศิลปะเครื่องปั้นดินเผาแห่งชาติ ครั้งที่ 6, 9 และ 14 รางวัลผลงานยอดเยี่ยมงานแสดงศิลปะเครื่องปั้นดินเผาแห่งชาติ ครั้ง 7 และรางวัลงานยอดเยี่ยมงาน OTOP-SMEs-BOI ในงาน Made in Thailand ประจำปี 2551

 

ปัจจุบัน ตลาดส่งออกของบริษัทฯ อยู่ในประเทศญี่ปุ่น อังกฤษ และอิตาลี โดยสินค้าในบริษัทฯ สามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้ อุปกรณ์สปาเซรามิก เซรามิกบนโต๊ะอาหาร และเซรามิกสำหรับตกแต่งบ้าน โดยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดและมียอดการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่องคือ อุปกรณ์สปาเซรามิก ได้แก่ ตะเกียงน้ำมันหอม ที่ใส่สบู่ ที่ใส่น้ำมันหอม และที่ใส่ธูปหอม ซึ่งเฉพาะตลาดในญี่ปุ่นและยุโรปมียอดคำสั่งซื้อต่อเดือนกว่า 2,000 ชิ้น โดยส่วนใหญ่จะสั่งทำแบบผลิตตามยอดการสั่งซื้อ (Made to Order)

 

 

โดยตั้งแต่ปี 2556 บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากค่าแรงที่ขยับตัวสูงขึ้นเป็น 300 บาทต่อวัน และค่าแก๊สหุงต้ม (LPG) ฯลฯ ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับราคาจำหน่ายเซรามิกให้สูงขึ้น 5-10% ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของยอดขาย อีกทั้งวิกฤตค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อยอดการส่งออก โดยเฉพาะตลาดยุโรปที่มีปริมาณการสั่งซื้อสินค้าหลักกว่า 30% มีการปรับลดเหลือเพียง 15%

 

ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้ร่วมกับศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมเซรามิก จังหวัดลำปาง เพื่อขอคำปรึกษาแนะนำทางธุรกิจในด้านการพัฒนากระบวนการผลิต อาทิ การปรับปรุงต้นแบบและแม่พิมพ์เพื่อการขึ้นรูปด้วยวิธีการหล่อน้ำดิน และการให้คำปรึกษาเชิงลึกเพื่อลดความเสียหายจากปัญหาสีเคลือบถลอกและสีร่น อีกทั้งยังได้รับคำปรึกษาในด้านการทดสอบวัตถุดิบให้มีคุณภาพด้วย การทดสอบการสารปนเปื้อน อาทิ สารตะกั่วและแคดเมี่ยม

 

นอกจากนี้ ยังได้รับการพัฒนาบุคลากรให้มีความชำนาญในกระบวนการผลิตเซรามิกในทุกขั้นตอน ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ สามารถลดต้นทุนในกระบวนการผลิตได้กว่า 2 ล้านบาทต่อปี ตลอดจนยังช่วยเหลือด้านการเจรจาเปิดตลาดการค้าในหลายประเทศ อาทิ ประเทศในแถบตะวันออกกลาง สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และในกลุ่มอาเซียน รวมถึงคำแนะนำให้มีการแตกไลน์การผลิตเซรามิก เพื่อตอบโจทย์ตลาดที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น อาทิ เซรามิกสำหรับการประดับตกแต่งในบ้านเรือน และเซรามิกสุขภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าสิ้นปี 2556 จะทำให้ยอดขายโตขึ้นกว่าปีที่แล้ว 10-20%

 

เพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำเซรามิกในภูมิภาค กสอ. ยังได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดงาน “ASEAN Ceramic 2013” เพื่อสร้างโอกาสในการทำตลาดสำหรับผู้ประกอบการเซรามิกไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดอาเซียน โดยภายในงานได้มีการจัดแสดงนวัตกรรมการผลิต และวัตถุดิบใหม่ เพื่อให้ผู้ประกอบการเซรามิกสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมเซรามิกของตนเองได้

 

นอกจากนี้ งานดังกล่าวยังเป็นเวทีการเจรจาธุรกิจของผู้ประกอบการเซรามิกในอาเซียนให้มีการร่วมกลุ่มกันในภูมิภาคและนำสินค้าบุกสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา โซนยุโรป และตะวันออกกลาง เป็นต้น คาดว่าภายในงานจะทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดกว่า 120 ล้านบาท