EVENT & SEMINAR

โครงการคูปองนวัตกรรม เฟส 2 เสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการไทย
POSTED ON 13/07/2558


นายเชิญพร  เต็งอำนวย รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการคูปองนวัตกรรมเป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อผลักดันให้เอสเอ็มอีไทย พัฒนาธุรกิจด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ทั้งในรูปแบบของสินค้า กระบวนการ หรือบริการ และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับเอสเอ็มอี โดยให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอีพัฒนานวัตกรรมร่วมกับ ISP หรือ ผู้ให้บริการนวัตกรรมที่เป็นนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากทั้งภาครัฐ มหาวิทยาลัย หรือภาคเอกชน

 

โครงการคูปองนวัตกรรมผ่านการดำเนินงานในระยะที่ 1 มาแล้ว เมื่อปี พ.ศ.2553 – 2555 โดยมีจำนวนเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้นกว่า 680 รายทั่วประเทศ และมีผู้เชี่ยวชาญสมัครเข้าร่วมเป็น ISP จำนวน 832 ราย  และสามารถผลักดันให้เกิดเป็นโครงการนวัตกรรมได้จริงจำนวน 277 โครงการ  และช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจจากผลงานนวัตกรรมได้กว่า 1,252 ล้านบาท ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพึงพอใจ

 

ปัจจุบัน ส.อ.ท. และ สนช. ได้เริ่มดำเนินโครงการคูปองนวัตกรรมในระยะที่ 2 โดยได้ขยายความร่วมมือจากเดิมที่ทำงานร่วมกันเฉพาะ สนช. และ ส.อ.ท. แต่ในเฟสที่ 2 นี้ ได้มีการเชิญสภาหอการค้าไทยเข้าร่วมในโครงการนี้ด้วย และได้ปรับเพิ่มวงเงินสนับสนุนให้กับเอสเอ็มอีต่อโครงการให้สูงขึ้น คือ ไม่เกิน 1,500,000 บาทต่อโครงการ ซึ่งนอกจากเอสเอ็มอีจะได้นำเงินดังกล่าวไปพัฒนานวัตกรรมสำเร็จและได้เป็นต้นแบบนวัตกรรมแล้ว ยังสามารถมีเงินไว้สำหรับต่อยอดในเชิงพาณิชย์ได้ด้วย

 

โดยโครงการในเฟสที่ 2 นี้ ตั้งเป้าหมายโครงการเข้าร่วมไว้ 250 โครงการ ซึ่งน้อยกว่าในเฟส 1 เนื่องจากเกณฑ์ในการพิจารณาค่อนข้างเข้มงวดมากขึ้น อีกทั้งเป็นการคัดกรองโครงการที่เน้นคุณภาพอย่างแท้จริง

 

จุดเด่นของโครงการในเฟส 2 คือ มีการนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเอสเอ็มอีและ ISP ที่เข้าร่วมโครงการในเฟส 1 มาปรับปรุงวและางแผนการดำเนินงานโครงการเพื่อให้มีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อเอสเอ็มอีมากยิ่งขึ้น อาทิ การแก้ปัญหากระบวนการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งหมด จะดำเนินการโดย สนช. เพื่อความคล่องตัวและเป็นไปตามเกณฑ์ที่ถูกต้อง

 

ส่วน ส.อ.ท. จะเน้นในเรื่องคัดกรองโครงการ และสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในเชิงวิชาการเป็นหลัก ขณะที่ปัญหา ISP ที่เข้าร่วมโครงการกระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่ ส่งผลให้บริการไม่ทั่วถึงนั้น ก็ได้มีการวางแผนเชื่อมโยงกับมหาวิทยาลัยหลักในแต่ละภูมิภาค เพื่อเป็นกำลังสำคัญในส่วนของ ISP ที่จะเข้าไปช่วยเอสเอ็มอีในแต่ละภูมิภาคให้ได้อย่างทั่วถึง และที่สำคัญคือในเฟส 2 นี้ โครงการฯมีแผนที่จะส่งเสริมต้นแบบนวัตกรรมที่น่าสนใจที่พัฒนาผ่านโครงการนี้ โดยจะส่งเสริมเชิงพาณิชย์ต่อเนื่อง ด้วยการพาผู้ประกอบการออกตลาดในกลุ่มอาเซียน

 

สำหรับขั้นตอนการดำเนินโครงการนั้น เอสเอ็มอีที่สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วจะต้องพัฒนา Concept Idea ส่งให้ทีมงานโครงการฯประเมินในเบื้องต้นก่อน หากผ่านการพิจารณาแล้วถึงจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ ส่วนเอสเอ็มอีที่ยังไม่มี ISP ทาง ส.อ.ท.จะเข้าไปช่วย Matching ISP ให้ ซึ่งทาง ส.อ.ท.มีฐานข้อมูล ISP จากเฟสเดิมจำนวนกว่า 800 ราย และยังมีเครือข่ายความร่วมมือกับนักวิจัยในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศในแต่ละภูมิภาคด้วย เมื่อเอสเอ็มอีสามารถจับคู่กับ ISP ได้แล้ว เอสเอ็มอีและ ISP ต้องร่วมกันพัฒนา (ร่าง) Proposal เพื่อให้ทางทีมงานโครงการฯและผู้ทรงคุณวุฒิได้ Screen ความเป็นไปได้ของโครงการ ก่อนที่จะพัฒนา Proposal ฉบับสมบูรณ์ เพื่อนำเสนอคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติต่อไป

 

สำหรับผู้ประกอบการที่สมัครเข้าร่วมโครงการคูปองนวัตกรรม เฟส 2 ผ่าน ส.อ.ท.นั้น ยังมีโครงการต่อยอดให้กับเอสเอ็มอีหลังจากการเข้าร่วมโครงการคูปองนวัตกรรม โดยหลังจากที่เอสเอ็มอีพัฒนาต้นแบบนวัตกรรมแล้ว ส.อ.ท.ยังคงส่งเสริมต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการต่อยอดสู่การผลิตจริงเชิงพาณิชย์ โดยเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับ สถาบัน SMI สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งมีโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีพัฒนาต่อยอดนวัตกรรมในหลากหลายมิติ อาทิ ส่งเสริมด้านการตลาด ผ่านโครงการสุดยอดนวัตกรรม 7 Innovation Awards  ส่งเสริมด้านแหล่งเงินทุนผ่านความร่วมมือระหว่างสภาอุตสาหกรรมฯ กับ สถาบันการเงินหลายแห่ง ในการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับสินเชื่อด้านนวัตกรรม อาทิ SME Bank และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นต้น

 

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการคูปองนวัตกรรมเพื่อยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถของเอสเอ็มอีไทย ไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ระยะที่ 2 สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือขอใบสมัครได้ที่ สถาบันวิจัยพัฒนาและนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โทรศัพท์ 02-345-1236-41 หรือ ทางอีเมล naruekamolp@off.fti.or.th, talent.fti@gmail.com หรือ rdi.fti@gmail.com โดยโครงการนี้เปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2558 นี้