เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ หนึ่งในผู้จัดงานแสดงสินค้าชั้นนำของโลกจากประเทศเยอรมัน พร้อมเข้าส่งเสริมอุตสาหกรรมการจัดแสดงสินค้าในประเทศไทย ด้วยการงัดกลยุทธ์ดึง 4 งานยักษ์ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จระดับโลกมาจัดแสดง โดยในงานผู้เยี่ยมชมจะได้รับความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีในแง่มุมต่างๆ และยังก่อให้เกิดธุรกิจใหม่ในหลากหลายอุตสาหกรรม

เมืองดุสเซลดอร์ฟ คือต้นกำเนิดในการจัดงานแสดงสินค้าของเมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ โดยงานจำนวนมากเป็นงานแสดงสินค้าขนาดใหญ่และมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานมากที่สุดในโลก ทั้งนี้ ในเดือนมิถุนายน 2558 นี้ งานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมโลหะ "จีฟ่า" (GIFA) จะถูกจัดขึ้นเพื่อนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ และพร้อมต้อนรับผู้เยี่ยมชมจำนวนมากจากเอเชีย สำหรับชาวไทยที่สนใจงานจีฟ่า เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ จะจัดงานสัมมนาขึ้นในวันที่ 30 มกราคม 2558 ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ เพื่อให้ผู้ที่สนใจที่จะไปร่วมงานในเมืองดุสเซลดอร์ฟได้รับทราบรายละเอียดงานแสดงสินค้าที่จะเกิดขึ้น

บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ จำกัด ถือเป็นหนึ่งในบริษัทจัดงานแสดงสินค้าชั้นนำของโลก ด้วยประสบการณ์กว่า 60 ปีกับความสำเร็จในการจัดแสดงสินค้ากว่า 50 งาน โดยมากกว่า 20 งานจัดแสดงสินค้าได้รับการยกย่องให้เป็นการจัดแสดงอันดับหนึ่งของโลกที่ตอบสนองอุตสาหกรรมหลักๆ เช่น อุตสาหกรรมการพิมพ์, อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์, อุตสาหกรรมพลาสติก, อุตสาหกรรมเคเบิลและท่อร้อยสาย, อุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ เทคโนโลยีด้านการผลิตทางการแพทย์ และเวชศาสตร์ฟื้นฟู, งานแสดงสินค้า A+A เป็นงานแสดงสินค้าเฉพาะทางที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของโลกในเรื่องอาชีวอนามัย และงานแสดงสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย

เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ พร้อมนำเสนอคำตอบให้กับบริษัทที่มองหาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี นวัตกรรม แนวคิด และโซลูชั่นใหม่ๆ ที่งานแสดงสินค้าชั้นนำระดับโลกของเมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ กรุ๊ป และในปี 2558 นี้ เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ วางแผนที่จะสร้างแพลทฟอร์มในประเทศไทยให้บริษัทต่างๆ ที่ผลิตสินค้าด้านนวัตกรรมใหม่ๆ จะได้รับการตอบสนองความต้องการในรูปแบบที่ไม่เคยมีการตอบสนองมาก่อน

โดยในปีนี้ ประเทศไทยจะจัดงานแสดงสินค้านานาชาติด้านเทคโนโลยี 4 งาน ประกอบด้วย

1. งานแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ (PACK PRINT INTERNATIONAL : PPI) คืองานลูกของงานจัดแสดงอุตสาหกรรมการพิมพ์ (drupa) ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆและเหมาะสำหรับบริษัทที่กำลังเติบโตและมองหาเวทีในการจัดแสดงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยต่างๆ งานดังกล่าวเป็นงานที่เหมาะและดีที่สุดในการนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดสำหรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์ โดยจะถูกขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 สิงหาคม 2558 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

2. งานแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกและยาง (T-PLAS THAILAND) คืองานลูกของงานจัดแสดงอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ (interpack) โดยงานแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกและยาง (T-PLAS THAILAND) นี้เป็นงานที่รวบรวมเอาความโดดเด่นของอุตสาหกรรมพลาสติกและยางมาไว้ด้วยกัน โดยจะนำเสนอทางเลือกที่ครอบคลุม ตั้งแต่อุตสาหกรรมเครื่องจักรและอุปกรณ์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมล่าสุด ไปจนถึงอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป วัตถุดิบ ชิ้นส่วนเชิงเทคนิค และพลาสติกเสริมแรง รวมถึงบริการทั้งหมดของอุตสาหกรรมทั้งสองอุตสาหกรรม โดยงานแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมพลาสติกและยาง (T-PLAS THAILAND) จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 สิงหาคม 2558 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

3. งานแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมการแพทย์ ประเทศไทย (MEDICAL FAIR THAILAND) คืองานลูกของงานจัดแสดงสินค้าอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ เทคโนโลยีด้านการผลิตทางการแพทย์ งานดังกล่าวจะนำองค์ความรู้ด้านการแพทย์และการดูแลสุขภาพขั้นสูงมาสู่ประเทศไทย โดยผู้จัดแสดงจากทั่วทุกมุมโลกจะนำนวัตกรรมและการบริการด้านการแพทย์มาจัดแสดง อีกทั้งยังช่วยรักษาระดับการพัฒนาด้านเทคโนโลยีใหม่ๆของอุตสาหกรรมการแพทย์และการดูแลสุขภาพของภูมิภาคอีกด้วย โดยงานแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมการแพทย์ (MEDICAL FAIR THAILAND) จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 กันยายน 2558 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์

4. งานแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมเคเบิลและท่อร้อยสาย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (WIRE & TUBE SOUTHEAST ASIA) คืองานลูกของงานจัดแสดงสินค้าอุตสาหกรรมเคเบิลและท่อร้อยสาย โดยงานดังกล่าวจะเป็นศูนย์กลางในการนำเสนอเทคโนโลยีอันล้ำหน้าสำหรับธุรกิจในประเทศและระดับนานาชาติที่ต้องการหาโอกาสที่จะขยายการส่งออกผลิตภัณฑ์ลวด สายเคเบิล ท่อ และท่อร้อยสาย รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ โดยงานแสดงสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมสายเคเบิลและท่อร้อยสาย (Wire & Tube Southeast ASIA) จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 กันยายน 2558 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค

สำหรับงานแสดงสินค้าต่างๆ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการและผู้เยี่ยมชมกว่า 50,000 คน โดยงานแสดงสินค้าชั้นนำของอุตสาหกรรมต่างๆ เหล่านี้มีเป้าหมายในการช่วยสนับสนุนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการจัดแสดงสินค้าประจำภูมิภาค ซึ่งพิจารณาจากความเหมาะสมและความสนใจของธุรกิจในประเทศไทยและจากทั่วเอเชีย