ENVIRONMENT

กรมโรงงานฯ เตรียมจัดการและคุมเข้มระบบดูแลกากพิษ
POSTED ON 27/01/2557


สิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม - นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า กรอ.อยู่ระหว่างเร่งรัดกระบวนการกากอุตสาหกรรมทั้งระบบ ซึ่งมีทั้งขยะอันตรายและไม่อันตราย โดยดำเนินการ 2 ขั้นตอน คือ (1) เตรียมว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานกำจัดขยะของเสียภาพรวม โดยเฉพาะของเสียอันตราย วงเงิน 10 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลาศึกษา 10 เดือน เสร็จก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งการศึกษาจะครอบคลุมตั้งแต่ควรตั้งที่ไหน เป็นเตาเผาประเภทใดที่เหมาะสม รวมถึงรูปแบบการลงทุน

 

และ (2) จะนำงบที่เหลือค้างจ่าย 1 ล้านบาท ศึกษาการนำเทคโนโลยีระบบระบุลักษณะของวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency Identification-RFID) มาควบคุม ติดตามการขนส่งกากอุตสาหกรรม ตั้งแต่ต้นทางคือจากโรงงานอุตสาหกรรมไปยังจุดกำจัดกาก ช่วยลดปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม

 

นายณัฐพลกล่าวว่า ปัจจุบันการกำจัดขยะนอกจากการเผาที่นิคมบางปู อีกส่วนหนึ่งถูกนำไปฝังกลบและเข้าเตาเผาของโรงปูนซีเมนต์ แต่ขยะอันตรายบางอย่างไม่สามารถไปโรงปูน เพราะไม่ได้ออกแบบเพื่อขยะอันตราย การลงทุนทั้ง 2 ขั้นตอน ต้องดูรายละเอียดว่าหากให้เอกชนทำแล้วจะต้องควบคุมอย่างไร และต้องไม่เกิดต้นทุนเพิ่มให้เอกชน

 

กรอ.จะเข้มงวดการกำจัดกากมากขึ้น โดยเตรียมส่งทีมงานลงไปตรวจโรงงานรีไซเคิล 400 แห่งทั่วประเทศว่าปฏิบัติตามกฎหมายหรือไม่ เพราะพบว่ายังคงมีการลักลอบนำขยะไปทิ้งมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาผลการตรวจโรงงานค่อนข้างผิดปกติเพราะผ่านมาตรฐานทั้งหมดทั้งที่ไม่น่าเป็นไปได้

 

รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การก่อสร้างเตาเผาขยะขนาดใหญ่ของไทยเบื้องต้นคาดว่าจะก่อสร้างด้วยกำลังการเผา 600 ตันต่อวัน มูลค่าก่อสร้างรวม 3,000 ล้านบาท หากสามารถศึกษาความเป็นไปได้เสร็จตามแผนปี 2558 จะของบประมาณและเริ่มก่อสร้างได้ปี 2559 และเปิดดำเนินการปี 2562 เพราะต้องใช้เวลาทดสอบระบบประมาณ 1-2 ปี

 

ปัจจุบันมีโรงงานฝังกลบขยะอันตรายขนาดใหญ่ 3 แห่ง คือ บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) บริษัท พัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกัด (เจนโก้) และ บริษัท โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) จำกัด (มหาชน) และจากการสำรวจพบว่าความสามารถฝังกลบทั้ง 3 บริษัทจะได้ประมาณ 10-15 ปี จึงจำเป็นต้องสร้างเตาเผาแห่งใหม่