ENVIRONMENT

นำร่อง 5 จังหวัดพัฒนาเป็นเมืองอุตฯเชิงนิเวศ
POSTED ON 05/03/2558


สิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม - ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การบริหารราชการของประเทศ ของกระทรวงอุตสาหกรรม และของกรมโรงงานอุตสาหกรรม คือ ยุทธศาสตร์ของประเทศในยุทธศาสตร์ที่ 3 การเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Growth) ยุทธศาสตร์ของกระทรวงอุตสาหกรรมในยุทธศาสตร์ที่ 4 การส่งเสริมสถานประกอบการสู่อุตสาหกรรมสีเขียว และยุทธศาสตร์ที่ 1 ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม การบริหารจัดการให้ภาคอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน

 

ทั้งนี้ มติ ครม.เมื่อวันที่ 31 มี.ค. และ วันที่ 14 พ.ค.2556 ได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานร่วมกับส่วนราชการอื่น โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดทำแผนพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศให้เป็นผลภายในปี 2561 อย่างน้อย 11 จังหวัด

 

ดร.พสุ เผยว่า " เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา กรอ.ได้ร่วมกับหน่วยงานราชการทั้ง 5 จังหวัด และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมพัฒนาแผนแม่บทพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศขึ้น ซึ่งในแผนแม่บทดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยหน่วยงานหลายส่วนดำเนินการร่วมกันทำงานอย่างบูรณาการ โดย กรอ.ในฐานะที่มีบทบาทในการกำกับดูแลและส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมก็ได้ขับเคลื่อนด้วยเช่นกัน ทั้งปฏิบัติตามกฎหมาย ช่วยให้โรงงานมีการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น หรือให้โรงงานสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างเป็นสุข พร้อมทั้งสามารถแข่งขันได้ในตลาดสากล หรือโครงการดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนาเข้าสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศนี้ก็เช่นกัน จะเป็นการนำงานหรือแผนงานที่เกี่ยวข้องมาเริ่มดำเนินการ"

 

"การเปิดตัวโครงการดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนาเข้าสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในครั้งนี้ เพื่อให้การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ตามกรอบยุทธศาสตร์ของประเทศและมติ ครม. ซึ่ง กรอ.ได้นำนโยบายและโครงการจากแผนแม่บทฯที่ได้จัดทำไว้จากโครงการศึกษาเพื่อจัดทำแผนแม่บทเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในปีงบประมาณ 2557 โดยมี 5 จังหวัดนำร่อง คือ สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, ระยอง, ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี มาดำเนินการในด้านการบริหารจัดการและการดำเนินโครงการต่างๆ ด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศแบบบูรณาการ" อธิบดี กรอ. กล่าว              

 

ด้าน ร้อยเอกธเนศ จันทกลิ่น ผู้อำนวยการสำนักโรงงานอุตสาหกรรมรายสาขา 4 ทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า "โครงการดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนาเข้าสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เป็นการดำเนินการตามกรอบยุทธศาสตร์ประเทศที่มุ่งสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่มีความสมดุลอย่างยั่งยืน และเป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 31 มี.ค.2556 โดยในปีงบประมาณ 2557 ที่ผ่านมา ทาง กรอ.ได้ดำเนินการศึกษาจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในพื้นที่ 5 จังหวัดนำร่อง ประกอบด้วย พื้นที่อุตสาหกรรมเดิม ได้แก่ สมุทรปราการ สมุทรสาคร และระยอง และพื้นที่อุตสาหกรรมใหม่ ได้แก่ ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี"

 

"แผนแม่บทการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศใน 5 จังหวัดดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ในขั้นตอนนำเสนอจังหวัดและคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณานำไปดำเนินการต่อไป รวมถึงการเสนอ ครม.เพื่อทราบและมอบหมายสั่งการ เพื่อให้การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศบรรลุผล และเกิดสมดุลในการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรม การรักษาสิ่งแวดล้อม และการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน" ร้อยเอกธเนศ กล่าว

 

ในส่วนของ กรอ.ได้นำกิจกรรมในมิติสิ่งแวดล้อมและมิติการบริหารจัดการในแผนแม่บทฯที่ได้จัดทำไว้ ซึ่งเป็นบทบาทและอำนาจหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรมที่ประกอบด้วย กรอ. และ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดมาดำเนินการในปีงบประมาณ 2558 ประกอบด้วย (1) การตรวจประเมินและปรับปรุงประสิทธิภาพระบบบำบัดมลพิษทางอากาศและน้ำเสีย (2) การฝึกอบรมการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม (3) การฝึกอบรมเตรียมความพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการ CSR-DIW Award (4) การส่งเสริมให้สถานประกอบการสมัครเข้ารับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) และ () การจัดตั้งเครือข่ายอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Network)

 

สำหรับการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศนั้นถูกนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและสังคมที่เกิดจากการพัฒนาอุตสาหกรรมในหลายประเทศ ซึ่งมีการดำเนินการมาเป็นระยะเวลานาน เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ซึ่งแต่ละประเทศมีแนวทางการดำเนินงานที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะของปัญหาความรุนแรงของปัญหาและสภาพแวดล้อมทางสังคม

 

ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นตัวอย่างของประเทศที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติเป็นอย่างสูง ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ โดยแต่เดิมเมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นได้เร่งรัดการผลักดันอุตสาหกรรม เพื่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว จนเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชนอย่างรุนแรง จึงต้องแก้ไขปัญหาอย่างเข้มงวด เริ่มจากดันกฎหมายมาตรฐานประกอบการการสร้างเขตอุตสาหกรรมเฉพาะ และเขตอุตสาหกรรมเชิงนิเวศแนวใหม่มาเป็นลำดับ

 

ปัจจุบันอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นมีความก้าวหน้าในการรักษาสิ่งแวดล้อมและไม่กระทบต่อสังคม โดยความความสำเร็จของโครงการอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในประเทศญี่ปุ่นเกิดขึ้นได้เพราะความร่วมมือที่ดีระหว่างรัฐบาลกลาง และรัฐบาลท้องถิ่น ความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย การขยายพื้นที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เน้นการอนุรักษ์พลังงานและจัดการวัสดุของเสียแบบบูรณาการ

 

"ตัวอย่างการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจากต่างประเทศอาจจะเป็นแนวทางเพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับการพัฒนาในประเทศไทยได้ แต่ถ้าจะให้ปฏิบัติตามทุกขั้นตอนคงเป็นไปไม่ได้ เพราะสภาพแวดล้อมและสภาพปัญหาแตกต่างกัน ยังมีจุดเด่นอยู่ในหลายด้าน เช่น กฎหมายยังไม่มีการบังคับใช้อย่างเข้มงวด ขาดเทคโนโลยีการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม ขาดองค์ความรู้ความเข้าใจการบูรณาการแก้ไขปัญหา ขาดความเห็นพ้องต้องกันของทุกภาคส่วน เป็นต้น ในการกำหนดกรอบการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศของประเทศไทย จึงมุ่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันไปพร้อมๆ กัน" ร้อยเอกธเนศ กล่าว

 

สำหรับยุทธศาสตร์เชิงบริหารในการพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศนั้นจะเน้นในเรื่องการจัดระเบียบให้โรงงานต่างๆ ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งดำเนินการส่งเสริมพัฒนาให้มีมาตรฐานการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย เพื่อให้การประกอบกิจกรรมโรงงานไม่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมโดยใช้หลัก 3Rs ในการจัดการกากอุตสาหกรรม รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนบริเวณโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม และเขตประกอบการ สวนอุตสาหกรรม เฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการบูรณาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน