สิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม - พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล คอมปะนี (NYSE:PG) และคอนสเตลเลชั่น บริษัทในเครือเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น (NYSE:EXC) ประกาศความร่วมมือในการพัฒนาโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 50 เมกะวัตต์ ซึ่งจะป้อนพลังงานให้กับโรงงานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของพีแอนด์จีในสหรัฐฯ โดยโรงงานแห่งนี้จะทำให้การใช้พลังงานทดแทนของพีแอนด์จีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ ก้าวหน้าไปอีกขั้นสู่เป้าหมายการใช้พลังงานทดแทนในการผลิตเป็นสัดส่วน 30% ของพลังงานทั้งหมดภายในปี 2563

คอนสเตลเลชั่นจะดำเนินการสร้าง เป็นเจ้าของ และบริหารจัดการโรงไฟฟ้าพลังงานร่วม (cogeneration) มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะผลิตพลังงานไอน้ำให้กับโรงงานผลิตกระดาษของพีแอนด์จีในเมืองอัลบานี รัฐจอร์เจีย และผลิตไฟฟ้าให้กับ Georgia Power ผู้ให้บริการสาธารณูปโภคในพื้นที่

เป็นเวลากว่า 30 ปี ที่โรงงานในเมืองอัลบานีประสบความสำเร็จในการใช้บอยเลอร์เชื้อเพลิงชีวมวลขนาดเล็กเพื่อเปลี่ยนเศษไม้เป็นพลังงานไอน้ำทดแทน ซึ่งป้อนพลังงานได้เป็นสัดส่วนราว 30% โดยโรงงานแห่งใหม่จะแทนที่บอยเลอร์เดิมที่เริ่มเสื่อมสภาพลงด้วยระบบชีวมวลที่มีประสิทธิภาพกว่า ซึ่งจะเปลี่ยนชีวมวลที่ได้รับเป็นพลังงานไอน้ำ 100% และป้อนพลังงานในการผลิตกระดาษ Bounty และ Charmin เป็นสัดส่วนสูงสุด 60-70% ของพลังงานทั้งหมด

“พีแอนด์จีมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราให้มีความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมในทุกแง่มุมของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต บรรจุ และส่งมอบ ไปจนถึงการใช้งานของผู้บริโภค” มาร์ติน ไรอันท์ ผู้สนับสนุนโครงการเพื่อความยั่งยืน และประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก สตรี และครอบครัวของพีแอนด์จี กล่าว “เนื่องจากโครงการนี้เปิดโอกาสให้เราสามารถดำเนินงานในโรงงานผลิตที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ด้วยพลังงานทดแทน โครงการดังกล่าวจะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของ 2 แบรนด์ชั้นนำอย่าง Bounty และ Charmin ซึ่งเรายกให้เป็นชัยชนะสำหรับธุรกิจของเรา ตลอดจนผู้บริโภค พาร์ทเนอร์ และสิ่งแวดล้อม”

โรงงานดังกล่าวเป็นโครงการล่าสุดของคอนสเตลเลชั่นในธุรกิจพลังงานจากแหล่งที่หาได้ทั่วไปซึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยทางบริษัทมีโรงไฟฟ้าภายใต้การบริหารจัดการหรือแผนการพัฒนา ซึ่งมีกำลังผลิตรวมกันกว่า 300 เมกะวัตต์

“คอนสเตลเลชั่นมีจุดยืนที่สอดคล้องกับเป้าหมายด้านพลังงานทดแทนของพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เนื่องด้วยความเป็นผู้นำของเราทั้งในแง่ของการผลิตพลังงานเพื่อจำหน่ายและการกระจายการผลิต” แกรี่ โฟรเมอร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจกระจายการผลิตของคอนสเตลเลชั่น กล่าว “ลูกค้าของเราต่างมองหาตัวเลือกด้านพลังงานแบบครบวงจร ที่สามารถยกระดับประสิทธิภาพและความยั่งยืนในการดำเนินงาน โดยคอนสเตลเลชั่นสามารถส่งมอบนวัตกรรมโซลูชั่นพลังงานสะอาดที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้าของเรา"

ตามแผนงานเบื้องต้นของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ พีแอนด์จีและคอนสเตลเลชั่น ได้สรุปมาตรฐานการจัดซื้ออย่างยั่งยืนสำหรับโครงการดังกล่าว โดยโรงไฟฟ้าจะใช้เชื้อเพลิงจากชีวมวล ซึ่งปกติแล้วมักถูกทิ้งไว้ให้เน่าเปื่อย นำไปเผาทิ้ง หรือไม่ก็ฝังกลบ เช่น ยอดต้นไม้ กิ่งไม้ ก้านไม้ ตลอดจนเศษไม้จากแหล่งการทำป่าไม้ในพื้นที่ เช่นเดียวกับส่วนที่ไม่ใช้แล้วจากพืช เช่น เปลือกถั่วพีแคนและเปลือกถั่วลิสง หรือแม้แต่ขยะจากโรงสีอย่างขี้เลื่อย ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้เป็นการสานต่อนโยบายจัดซื้อใยไม้อย่างมีความรับผิดชอบของพีแอนด์จี สำหรับธุรกิจผลิตกระดาษทิชชู กระดาษชำระ และผลิตภัณฑ์ดูดซับ เช่นเดียวกับความมุ่งมั่นของคอนสเตลเลชั่น เพื่อพัฒนาตัวเลือกทางพลังงานให้กับลูกค้าที่เป็นประโยชน์แก่สิ่งแวดล้อม

การจัดซื้อพลังงานจากคอนสเตลเลชันของ Georgia Power เพื่อลดต้นทุนนั้น เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจในหลากหลายแง่มุมของบริษัทฯ เพื่อส่งเสริมและใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานทดแทนในจอร์เจีย ซึ่งได้ปรากฏให้เห็นจริงตามแผนงานที่พัฒนาขึ้นและได้รับการรับรองจากคณะกรรมาธิการฝ่ายบริการสาธารณะประจำรัฐจอร์เจีย ปัจจุบันคอนสเตลเลชั่นได้จัดทำสัญญาเพื่อจำหน่ายกำลังผลิตและพลังงานเป็นจำนวน 42 เมกะวัตต์จากโรงไฟฟ้ากำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ให้กับทาง Georgia Power

“เรามีความมุ่งมั่นและรับผิดชอบต่อการทำงานร่วมกับลูกค้าของเรา รวมถึงธุรกิจชั้นแนวหน้าของรัฐจอร์เจียอย่างพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เพื่อก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับนวัตกรรมพลังงานทดแทน” นอร์รี แมคเคนซี รองประธานฝ่ายการพัฒนาพลังงานทดแทนจาก Georgia Power กล่าว “โดยโรงงานในเมืองอัลบานีนี้ถือเป็นตัวอย่างอันดีที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่สานต่อเรื่อยมา”

นอกจากนี้ ทางโครงการยังได้ประสานงานร่วมกับ Albany-Dougherty Payroll Development Authority ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเมือง เขตปกครอง และมลรัฐ และยังได้รับการสนับสนุนและนำร่องโดยคณะกรรมาธิการฝ่ายบริการสาธารณะประจำรัฐจอร์เจีย และบริษัทพลังงานชั้นนำรายอื่นๆ ซึ่งทาง DCO Energy จะเป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในโครงการ และเป็นผู้วางระบบ จัดซื้อ และบริการก่อสร้างในโครงการ ขณะที่ Exelon Generation บริษัทในเครือของคอนสเตลเลชั่น จะเป็นผู้ดำเนินงานและดูแลโรงไฟฟ้าใหม่นี้ ส่วน Sterling Energy Assets ได้ร่วมงานกับทางคอนสเตลเลชั่นเพื่อพัฒนาโครงการดังกล่าว

“เรามีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่จะช่วยกำหนดทิศทางในการใช้พลังงานชีวมวลอย่างยั่งยืน ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่สำหรับพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล และเมืองอัลบานี ที่ได้สานต่อความสัมพันธ์มายาวนานกว่า 40 ปี” โดโรธี ฮับบาร์ด นายกเทศมนตรีเมืองอัลบานี และประธานของ Albany-Dougherty Payroll Development Authority กล่าว “โครงการนี้จะยกระดับการดำเนินงานภายในโรงงานของพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ในเมืองอัลบานี อีกทั้งจะช่วยสร้างงานและโอกาสทางธุรกิจให้กับเมืองอัลบานีและพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐจอร์เจีย”

โรงไฟฟ้าแห่งใหม่นี้ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วบางส่วน โดยมีกำหนดการเดินเครื่องผลิตในเดือนมิถุนายน 2560 และคาดว่าโครงการก่อสร้างนี้จะช่วยสร้างงานใหม่ได้ถึง 500 ตำแหน่งในช่วง 2 ปีข้างหน้า พร้อมงานประจำอีก 50-70 ตำแหน่งเพื่อทำงานในโรงไฟฟ้าเมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์