ENVIRONMENT

P&G มุ่งพัฒนาธุรกิจ-การผลิต สู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
POSTED ON 21/10/2557


สิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม - พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล คอมปะนี หรือ P&G ประกาศขยายเป้าหมายความยั่งยืน เพื่อเดินหน้าเสริมสร้างคุณค่าผ่านแบรนด์และผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค พร้อมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ คุ้มครองสิ่งแวดล้อม และปรับปรุงสถานภาพความเป็นอยู่ทางสังคมแก่ผู้ที่ขาดแคลน

 

นายมาร์ติน ไรอันท์ ผู้สนับสนุนโครงการเพื่อความยั่งยืน และประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก สตรี และครอบครัวของพีแอนด์จี กล่าวว่า “เรายังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ให้มีความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมในทุกแง่มุมของวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต บรรจุ และส่งมอบ ไปจนถึงการใช้งานของผู้บริโภค โดยในขณะนี้เรากำลังลดผลกระทบที่ผลิตภัณฑ์ของเรามีต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อผู้ซื้อ ชุมชน และบริษัท ขณะที่ยังคงนำเสนอคุณภาพและประสิทธิภาพตามที่ผู้ใช้คาดหวังจากผลิตภัณฑ์ของพีแอนด์จี”

 

พีแอนด์จี ดำเนินงานตามเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม 12 ประการ สู่วิสัยทัศน์ของบริษัทในการใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ตลอดจนการใช้วัสดุหมุนเวียนหรือนำกลับมาใช้ใหม่ 100% สำหรับผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด พร้อมลดการทิ้งวัสดุหลังการใช้งานหรือการผลิตให้เป็นศูนย์

 

ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่ได้มีการกำหนดเป้าหมายเมื่อปี 2553 พีแอนด์จีได้สร้างความคืบหน้าอย่างมาก โดยปัจจุบันมีโรงงานผลิตที่สามารถใช้ประโยชน์จากของเสียได้ทั้งหมด (zero-waste) ถึง 70 แห่งด้วยกัน ซึ่งล้วนมีอัตราการใช้พลังงาน น้ำ การปล่อยก๊าซ C02 และการขนส่งทางรถบรรทุกลดลงเป็นอย่างมาก ขณะที่มีอัตราการใช้พลังงานหมุนเวียน และการรับรองวัตถุดิบใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

พีแอนด์จีได้เพิ่มเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2563 โดยเน้นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และบรรจุภัณฑ์ โดยการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ เป็นหลักการดำเนินงานที่พีแอนด์จียึดมั่นเรื่อยมา โดยในระหว่างปี 2545-2555 ทางบริษัทฯ สามารถลดการใช้น้ำในโรงงานผลิตได้มากกว่า 70% ต่อหนึ่งหน่วยการผลิต และขณะนี้ ทางบริษัทจะขยายขอบเขตความรับผิดชอบให้ครอบคลุมถึงการลดการใช้น้ำในโรงงานผลิตเพิ่มอีก 20% ต่อหน่วยการผลิต โดยเน้นที่โรงงานผลิตที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ขาดแคลนน้ำ และการจัดหาให้ประชาชนกว่า 1,000 ล้านคนเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ขณะที่ในด้านความยั่งยืนของบรรจุภัณฑ์ เป็นอีกหลักการดำเนินงานที่สำคัญของพีแอนด์จี โดยปัจจุบันบริษัทฯ กำลังเดินหน้าลดการใช้การบรรจุภัณฑ์ลง 20% ต่อหน่วยการผลิตภายในปี 2563 และจากความคืบหน้าดังกล่าว พีแอนด์จีจึงจะยกระดับมาตรฐานการดำเนินงาน ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มการใช้เรซินรีไซเคิลในบรรจุภัณฑ์พลาสติกเป็นสองเท่า และทำให้มั่นใจว่าบรรจุภัณฑ์ 90% สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือมีการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมการนำบรรจุภัณฑ์กลับมาใช้ใหม่

 

นอกเหนือจากการเพิ่มเป้าหมายสองประการดังกล่าวแล้ว พีแอนด์จีกำลังดำเนินงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อแทนที่วัตถุดิบที่มาจากปิโตรเลียมด้วยวัตถุดิบหมุนเวียนภายในปี 2563 ตามเงื่อนไขด้านต้นทุนและปริมาณการผลิต

 

“เรามีความมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจพีแอนด์จีให้เติบโตอย่างมีความรับผิดชอบ และเราต้องการเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในการสร้างคุณค่าแก่ผู้บริโภคและผู้ถือหุ้นไปพร้อมกับการอนุรักษ์ทรัพยากร คุ้มครองสิ่งแวดล้อม และพัฒนาคุณภาพชีวิตสำหรับผู้ที่ขาดแคลน ทั้งนี้ เป้าหมายการเติบโตและเป้าหมายความยั่งยืนของพีแอนด์จีนั้นต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน” นายไรอันท์ กล่าว