พลังงานอุตสาหกรรม - นายพงษ์ดิษฐ พจนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง เปิดเผยว่า ได้เสนอผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงทุนจัดหาก๊าซธรรมชาติเอง เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าของ กฟผ. และบริษัทลูกแทนการซื้อจาก ปตท.เพียงอย่างเดียว ซึ่งเบื้องต้น กฟผ.และบริษัทลูกทั้งหมดมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 16,000 เมกะวัตต์ มีความต้องการใช้ก๊าซฯ อยู่ถึง 2.3 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน

เบื้องต้นกลุ่มบริษัทราชบุรี ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ กฟผ.ได้นำร่องศึกษาการลงทุนธุรกิจนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าในกลุ่ม กฟผ.ทั้งหมดเอง เนื่องจากบริษัท ราชบุรีฯ เป็นหนึ่งในผู้ใช้ก๊าซฯ ผลิตไฟฟ้าถึง 1,200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ดังนั้นการลงทุนในธุรกิจแอลเอ็นจีเองเป็นสิ่งที่คุ้มค่า เพราะช่วยลดต้นทุน

“ก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยมีแนวโน้มจะหมดลงไปในอีก 7-8 ปีจากนี้ รวมทั้งประเทศเมียนมาร์มีความต้องการใช้ก๊าซฯ ในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งในอนาคตมีโอกาสที่จะลดการขายก๊าซฯ ให้ไทย ดังนั้นจึงเพื่อเป็นการรองรับปัญหาดังกล่าว” นายพงษ์ดิษฐ กล่าว

นอกจากนี้ นายพงษ์ดิษฐยังเผยด้วยว่า "คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) บริษัทฯ ได้อนุมัติกรอบการเติบโตของบริษัทฯ ในระยะเวลา 10 ปี (2557-2566) โดยสร้างมูลค่ากิจการให้เพิ่มขึ้นเป็น 2.8 แสนล้านบาท ในปี 2566 จากปัจจุบันที่ 1.1 แสนล้านบาท หรือเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 9,700 เมกะวัตต์ จากปัจจุบัน 3,100 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานปี 2556 บริษัทมีรายได้รวม จำนวน 5.3 หมื่นล้านบาท และกำไร 6,100 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 4.27 บาท"

ขณะที่ผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในปี 2557 นั้น ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่เกิดเหตุความไม่สงบทางการเมืองก็ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแล้ว โดยคาดการณ์ความต้องการไฟฟ้าปี 2557 นี้ เติบโตเพียง 2-3% จากปกติอยู่ที่ 5-6% ซึ่งหากเหตุการณ์นี้รุนแรงและยืดเยื้อขึ้น ก็จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทยมากขึ้นอีก