ENERGY

ก.พลังงาน เผย ปีนี้ไทยมีแนวโน้มการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น
POSTED ON 27/01/2557


พลังงานอุตสาหกรรม - กระทรวงพลังงาน รายงานสถานการณ์พลังงานในปี 2556 มีการใช้พลังงานเชิงพาณิชย์ขั้นต้นรวม 2 ล้านบาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับปี 2556 การใช้ก๊าซธรรมชาติมีสัดส่วนมากที่สุดที่ 917,015 บาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน คิดเป็นร้อยละ 46 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 เมื่อเทียบปี 2555 ส่วนการใช้น้ำมันดิบอยู่ที่ 727,559 บาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน คิดเป็นร้อยละ 36 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบปี 2555

 

ด้านการใช้ถ่านหิน/ลิกไนต์ อยู่ที่ 313,320 บาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน คิดเป็นร้อยละ 16 การใช้ลดลงร้อยละ 4.4 เทียบกับปี 2555 ในขณะที่การใช้ไฟฟ้าพลังน้ำ/ไฟฟ้านำเข้า 46,635 บาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบ/วัน คิดเป็นร้อยละ 2 การใช้ลดลงร้อยละ 15.7 เทียบกับปี 2555

 

มูลค่าการใช้พลังงานรวม 2.13 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่ร้อยละ 0.9 แบ่งเป็นน้ำมันสำเร็จรูป 1.32 ล้านล้านบาท ไฟฟ้า 541,974 ล้านบาท ก๊าซ 121,147 ล้านบาท ถ่านหิน/ลิกไนต์ 25,315 ล้านบาท พลังงานทดแทน 118,469 ล้านบาท

 

ด้านมูลค่านำเข้าพลังงาน 1.42 ล้านล้านบาท ลดลงจากปี 2555 ร้อยละ 2 แบ่งเป็น 1.07 ล้านล้านบาท ก๊าซและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) 146,944 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูป 134,306 ล้านบาท ถ่านหิน 39,733 ล้านบาท ไฟฟ้า 20,168 ล้านบาท ในขณะที่มูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 357,896 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2555 ร้อยละ 10.8

 

สถิติพลังงานในการจัดหาปิโตรเลียมจากแหล่งในประเทศ (รวมพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย) ผลิตก๊าซอยู่ที่ 1.374 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต ผลิตน้ำมันดิบและ LNG อยู่ที่ 88.7 ล้านบาร์เรล ด้านปริมาณสำรองปิโตรเลียม (รวมก๊าซ-คอนเดนเสต-น้ำมันดิบ) เป็นปริมาณสำรองที่พิสูจน์แล้ว 2,007 ล้านบาร์เรล เทียบเท่าน้ำมันดิบ

 

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน 22.4 ล้านลิตร/วัน คือ แก๊สโซฮอล์เฉลี่ย 20.7 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีการใช้เฉลี่ย 12.2 ล้านลิตร/วัน การใช้เบนซิน (95) เฉลี่ย 1.70 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีการใช้ 1.12 ล้านลิตร/วัน ดีเซล มีการใช้ 57.2 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่มีการใช้เฉลี่ย 56.2 ล้านลิตร/วัน

 

ด้านการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) อยู่ที่ 7.47 ล้านตัน แบ่งเป็นใช้ในภาคปิโตรเคมี ร้อยละ 35 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1 ในภาคครัวเรือน ร้อยละ 32 ลดลงร้อยละ 21.3 ภาคขนส่ง ร้อยละ 24 เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.8 และภาคอุตสาหกรรม ร้อยละ 8 ลดลงร้อยละ 1.2 ส่วนการใช้ LPG ที่ลดลงในภาคครัวเรือน สอดคล้องกับสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นในการใช้เป็นเชื้อเพลิงของรถยนต์ ทั้งนี้ คาดว่าเป็นผลมาจากการเพิ่มราคา LPG ในภาคครัวเรือน 50 สตางค์/เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2556 รวมกับความเข้มงวดตรวจสอบการลักลอบจำหน่าย LPG

 

การใช้ก๊าซเฉลี่ย 4,602 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ร้อยละ 1.5 การใช้เพิ่มขึ้นทุกสาขา ยกเว้นการใช้ในโรงแยกก๊าซ แบ่งเป็นใช้ผลิตไฟฟ้า ร้อยละ 59 ในโรงงานอุตสาหกรรมร้อยละ 14 ใช้สำหรับรถยนต์ร้อยละ 7 ในโรงแยกก๊าซร้อยละ 20 นอกจากนี้ มีผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก ประเภทโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Cogeneration) ที่เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบรวม 1,170 เมกะวัตต์ ทำให้การใช้ก๊าซเพิ่มขึ้นจาก 419 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน เป็น 591 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.1 ในขณะที่การใช้ถ่านหินรวม 18.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ร้อยละ 1.8 โดยใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าร้อยละ 83 ในภาคอุตสาหกรรมร้อยละ 17 และมีการนำเข้าถ่านหินรวม 17 ล้านตัน ลดลงจากปี 2555 ร้อยละ 7.5

 

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานยังได้มองแนวโน้มการใช้พลังงานปี 2557 โดยวิเคราะห์ตามการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ระบุเศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 4-5 ปัจจัยสนับสนุนคือ การปรับตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจโลก และจากการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เช่น ญี่ปุ่น จีน และอาเซียน ระดับราคาน้ำมันดิบดูไบ มีแนวโน้มอยู่ที่ 105-110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

 

ความต้องการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.4 การใช้ก๊าซเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากความต้องการใช้เพื่อผลิตไฟฟ้า ในขณะที่การใช้พลังน้ำและไฟฟ้านำเข้าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 7

 

ส่วนการใช้น้ำมันสำเร็จรูปจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 แบ่งเป็นเบนซิน จะเพิ่มร้อยละ 0.6 ดีเซลเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6

 

การใช้ LPG ในครัวเรือนลดลงร้อยละ 4.7 การใช้ในรถยนต์จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.9 และการใช้ในภาคปิโตรเคมีจะมีการใช้เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9

 

การใช้ก๊าซธรรมชาติจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เพราะมีโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงเริ่มผลิตเข้าระบบ คือ โรงไฟฟ้าวังน้อย ชุดที่ 4 โรงไฟฟ้าจะนะ ชุดที่ 2 บริษัท กัลฟ์ เจพี เอ็นเอส จำกัด รวมทั้งโรงไฟฟ้า Cogeneration รวมทั้งหมด 3,421 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1