พลังงานอุตสาหกรรม - นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลังงานทดแทนพอสมควร โดยเฉพาะด้านการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจากขยะ ชีวมวล และพลังงานลม เนื่องจากเป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนมาก และต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติในอุตสาหกรรมดังกล่าว มีไม่ต่ำกว่า 10 ราย เม็ดเงินลงทุนหลายหมื่นล้านบาท ได้ชะลอโครงการลง เพื่อรอดูสถานการณ์ ทั้งนี้ หากปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นไม่จบลงภายใน 3 เดือน อาจจะกระทบต่อการลงทุนขนาดใหญ่เกือบทั้งหมด และส่งผลลบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อโครงการโซลาร์รูฟท็อป หรือโครงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตไฟฟ้าในบ้านเรือน เนื่องจากโครงการที่มีจำนวน 100 เมกะวัตต์ ดำเนินการไปเพียงไม่ถึงร้อยละ 20 เหลือค้าง ไม่สามารถดำเนินงานได้กว่าร้อยละ 70 เพราะติดปัญหาการขอใบอนุญาต ร.ง.4 และกฎหมายผังเมือง ทำให้ดำเนินงานได้ไม่ทันตามที่กำหนดในวันที่ 31 ธ.ค.2556 ซึ่งคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ก็ได้เตรียมที่จะยื่นเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แต่ภายหลังเกิดการยุบสภา ทำให้ กพช.ไม่สามารถดำเนินงานได้ จึงกระทบต่อโครงการโซลาร์รูฟท็อปที่ยังไม่ได้ดำเนินงาน ซึ่ง กพช.ได้ประกาศผ่อนผันไปอีก 1 เดือน หลังจากนี้ก็จะอนุโลมไปเรื่อยๆ ไม่ตัดสิทธิ์ที่ได้รับอนุญาตจาก กกพ.