พลังงานอุตสาหกรรม - นายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบนท์ แอนด์ เคมิคัลส์ หรือ ยูเอซี เปิดเผยว่า ปัญหาการเมืองไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนของบริษัทฯ ซึ่งมีโครงการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากหญ้าเนเปียร์และโครงการผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (ซีบีจี) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงทางเลือกสำหรับรถยนต์ รวมทั้งสิ้น 21 โครงการ โดยใช้เงินลงทุนโครงการละ 130-150 ล้านบาท รวมมูลค่าการลงทุนไม่น้อยกว่า 2,700 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง 3 โครงการ คือที่เชียงใหม่ 2 โครงการ และ ขอนแก่น 1 โครงการ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2557 นี้

สำหรับโครงการลงทุนของบริษัททั้ง 21 โครงการนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นการผลิตกระแสไฟฟ้าที่ใช้หญ้าเนเปียร์เป็นเชื้อเพลิงและมีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า แห่งละ 1.5 เมกะวัตต์ ซึ่ง 10 โครงการจะอยู่ที่ภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และอีก 10 โครงการ จะอยู่ที่ขอนแก่นและเลย ส่วนโครงการที่ 21 จะอยู่ที่จังหวัดศรีสะเกษ 

“บริษัทปลูกหญ้าเนเปียร์ในพื้นที่ประมาณ 200-300 ไร่ รวมทั้งมีผู้ร่วมทุนที่มีพื้นที่เหมาะสำหรับปลูกหญ้าเนเปียร์จำนวนมาก และเกษตรกรที่ให้การส่งเสริมก็มีการทำสัญญาระหว่างกัน (คอนแทร็ก ฟาร์มมิ่ง) จึงไม่มีความกังวลต่อเรื่องดังกล่าว” นายกิตติ กล่าว

ด้าน นายพงษ์ดิษฐ พจนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง กล่าวว่า บริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการราชบุรีเวอลด์โคเจนเนอเรชั่น ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมราชบุรี เพื่อผลิตไฟฟ้าโดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง กำลังผลิตรวม 210 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตไอน้ำรวม 40 ตันต่อชั่วโมง โดยมีบริษัท ราชบุรีเวอลด์ โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ถือหุ้น 40% เป็นผู้พัฒนาโครงการได้มีความก้าวหน้าตามแผนงาน โดยการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชุดที่ 1 แล้วเสร็จกว่า 85% และพร้อมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ในเดือน พ.ย.2557 นี้ ส่วนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชุดที่ 2 มีความก้าวหน้า 70% และมีกำหนดการเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ประมาณเดือน มี.ค.2558