Shanghai Electric Group ผู้ผลิตและซัพพลายเออร์อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้าและอุปกรณ์อุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก ประกาศว่า โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม แห่งแรกในบังกลาเทศของบริษัทได้เปิดใช้งานเชิงพาณิชย์แล้ว เดิมทีโรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซระบบวงจรเปิดทั่วไปขนาด 150 เมกะวัตต์ ก่อนเปลี่ยนมาเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมขนาด 225 เมกะวัตต์ เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้าในเขตสิเลฏทางภาคตะวันออกของบังกลาเทศ

โรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้รับการอัปเกรดด้วยเทคโนโลยี CCPP เพื่อลดการปล่อยมลพิษและเพิ่มประสิทธิภาพทางความร้อน นอกจากนั้นยังใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบระบายความร้อนด้วยอากาศเทคโนโลยี GVPI ขนาด 100 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าแห่งนี้ออกแบบมาให้สามารถทำงานโดยไม่ต้องปรับ laminated core ให้แน่นตลอดอายุการใช้งาน จึงต้องการการบำรุงรักษาน้อยลงและมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 90 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ เมื่อ 8 ปีที่แล้วก่อนที่จะมีการอัปเกรด โรงไฟฟ้าแห่งนี้ผลิตไฟฟ้า 8.19 พันล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงป้อนกริดไฟฟ้าแห่งชาติ และตอนนี้คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอีก 640 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี

การนำเทคโนโลยี GVPI (Global Vacuum Pressure Impregnation) ที่จดสิทธิบัตรแล้วมาใช้กับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบระบายความร้อนด้วยอากาศขนาด 100 เมกะวัตต์ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโรงไฟฟ้าเดิมจาก 33% เป็น 55% ซึ่งสะท้อนถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และความแข็งแกร่งด้านการวิจัยและพัฒนาของ Shanghai Electric

การอัปเกรดโรงไฟฟ้าเกิดจากความร่วมมือระหว่าง Shanghai Electric กับ Power Development Board (PDB) และถือเป็นโครงการ EPC โครงการที่ 4 ในบังกลาเทศของ Shanghai Electric ที่ริเริ่มขึ้นภายใต้โครงการ "One Belt One Road" ทั้งนี้ ย้อนกลับไปในปี 2553 เดิมโรงไฟฟ้าแห่งนี้เป็นโครงการ EPC โครงการที่ 2 ในบังกลาเทศของบริษัท ส่วนโครงการแรกคือโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน Barapukuria

Boston Consulting Group คาดการณ์ว่า กลุ่มชนชั้นกลางผู้มั่งคั่งในบังกลาเทศจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นแตะ 34 ล้านคน ใน 33 เมือง ภายในปี 2568 ซึ่งการขยายตัวของประชากรกลุ่มนี้ ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยคาดว่าจะแตะ 80,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2583 ซึ่งกำลังการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม

โรงไฟฟ้าแห่งนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคม เพราะ Shanghai Electric ทุ่มเงินลงทุนในภูมิภาคและจ้างแรงงานในท้องถิ่น โดยบุคลากรครึ่งหนึ่งหรือเกือบ 500 คนเป็นคนในท้องถิ่น และมีการจ้างงานเพิ่มในช่วงที่การก่อสร้างพีคสุดด้วย

"การอัปเกรดโรงไฟฟ้ากังหันก๊าซด้วยการเปลี่ยนจากระบบวงจรเปิดทั่วไปเป็นระบบความร้อนร่วมต้องอาศัยทักษะและความทุ่มเท เราได้สั่งสมประสบการณ์รวม 5 โครงการในบังกลาเทศนับตั้งแต่ปี 2545 จนถึงปัจจุบัน" หวัง อี้ หัวหน้าวิศวกรของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ กล่าว "เราคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ พร้อมยกระดับความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพด้วยโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อตลาดแต่ละแห่งโดยเฉพาะ"