ENERGY

อดีตผู้ว่า กฟภ. แนะ โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนชุมชนต้องเร่งศึกษาความเป็นไปได้
POSTED ON 11/01/2557


พลังงานอุตสาหกรรม - เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2557 ที่ผ่านมาในการประชุมของคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาและติดตามแผนการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพของประเทศไทย วุฒิสภา โดยมี นายวิบูลย์ คูหิรัญ สมาชิกวุฒิสภาสรรหา อดีตผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการ

 

ทั้งนี้ ในการประชุมมีการหารือถึงแนวทางการส่งเสริมเรื่องพลังงานทดแทนในชุมชุมที่รัฐบาลมีดำริอย่างเช่นโครงการ “หนึ่งชุมชน หนึ่งเมกะวัตต์” นั้นว่าโอกาสหรืออุปสรรคในการปฏิบัติจริงอย่างไร โดยนายวิบูลย์ระบุว่า ในขั้นต้นนั้นจะต้องมีหน่วยงานรับผิดชอบในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Study) เพื่อประเมินว่ามีผลตอบแทนทางการเงิน (Financial Internal Rate of Return : FIRR) และทางเศรษฐศาสตร์ (Economic Internal Rate of Return : EIRR) มากน้อยอย่างไร

 

ทั้งนี้ ในอดีตโครงการไฟฟ้าชนบทของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็เคยทำการศึกษาความเป็นไปได้ก่อนเริ่มโครงการและถึงแม้จะได้ผลตอบแทนทางการเงิน (FIRR) ต่ำ แต่ในด้านผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ (EIRR) กลับมีสูง โครงการไฟฟ้าชนบทจึงได้เริ่มดำเนินการได้ เพราะได้ทำการศึกษาแล้วว่าจะสามารถสร้างระบบเศรษฐกิจในชนบทให้มีมูลค่ามากขึ้นได้

 

ที่ผ่านมา รัฐบาลมีนโยบายแนวคิดผลักดันโครงการ “หนึ่งชุมชน หนึ่งเมกะวัตต์” รวมทั้งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก็เคยศึกษาและเสนอความเห็นต่อวุฒิสภา เรื่อง “หนึ่งชุมชนหนึ่งพลังงานทดแทน” ไว้แล้วด้วย ทั้งนี้ ความต้องการใช้พลังงานของไทยมีมูลค่าสูงถึงปีละ 1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 11% ของ GDP และการผลิตพลังงานในประเทศยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นได้อย่างเพียงพอ การผลิตพลังงานในประเทศสามารถตอบสนองความต้องการใช้ในประเทศได้เพียง 50% เท่านั้น ในขณะที่สัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนของไทยยังมีการใช้แต่มากเพียงประมาณ 7% ของความต้องการใช้พลังงานรวมเท่านั้น (ไม่รวมก๊าซธรรมชาติ)

 

โดยหลายฝ่ายมองว่าประเทศไทยยังมีแหล่งพลังงานทดแทนที่นำมาใช้ทดแทนพลังงานฟอสซิลได้เป็นจำนวนมาก ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ไบโอดีเซล แก๊สโซฮอล์ และชีวมวล และเห็นควรว่าภาครัฐจะต้องสนับสนุนการผลิตพลังงานทดแทนมาใช้ในสัดส่วนที่มากกว่าเดิม