Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

นายณพ ณรงค์เดช รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง กล่าวว่า โครงการ T5 ใช้ชุดกังหันจากเวสทัส (Vestas) และ เจเนอรัล อิเล็กทริก หรือจีอี (GE) โดยเวสทัสได้ติดตั้งกังหันลมรุ่น V136-3.0 MW จำนวน 60 ตัว ใน 2 โครงการ ส่วนจีอีซึ่งเป็นผู้ติดตั้งกังหันลมรุ่น GE3.43-137 จำนวน 90 ตัว ในอีก 3 โครงการที่เหลือซึ่งมีความคืบหน้าในระดับต่าง ๆ กัน

นอกจากนี้ จีอียังได้ก่อสร้างสถานีไฟฟ้าจำนวน 6 แห่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานระบบกริดสำหรับทั้ง 5 โครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยโครงการ T5 ดำเนินไปตามกรอบระยะเวลาที่วางไว้ ซึ่งคาดว่าโครงการสุดท้ายจะแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบภายในไตรมาสแรกของปีหน้า (พ.ศ.2562)

“เรายินดีเป็นอย่างยิ่งกับความคืบหน้าของโครงการทุ่งกังหันลมต่าง ๆ ภายใต้โครงการ T5 และเมื่อแผนงานเสร็จสิ้นสมบูรณ์ บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจากทุ่งกังหันลมในประเทศไทยจำนวน 720 เมกะวัตต์ และขึ้นแท่นผู้พัฒนาและดำเนินงานด้านกระแสไฟฟ้าพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นายณพ กล่าว

ด้าน นายธันว์ เหรียญสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง กล่าวว่า โครงการ T5 ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 เป็นจำนวน 3.7 หมื่นล้านบาท (1,100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ถือเป็นพันธมิตรสำคัญของบริษัทฯ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประกอบกับกลยุทธ์ของธนาคารฯ ที่ให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน เราจึงตั้งใจจะใช้บริการจากธนาคารอีกในอนาคต

“การสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ ทำให้ WEH ต้องดำเนินการอย่างรัดกุมทั้งด้านการเงินและที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเงินเพื่อให้เป็นไปตามสัญญาการกู้ยืมโดยทั่วไป ทั้งนี้ WEH ได้ดำเนินการตามสาระสำคัญของข้อตกลงอย่างต่อเนื่องทุกประการและทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมงานของธนาคาร ซึ่งทำหน้าที่ประเมินความคืบหน้าของ WEH อย่างสม่ำเสมอ” นายธันว์ กล่าว