Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักร, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics

พลังงานอุตสาหกรรม - นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2560 ที่ผ่านมา การประชุมร่วมระหว่างผู้จำหน่ายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อเตรียมพร้อมนำเข้า LPG รองรับนโยบายเปิดเสรีธุรกิจ LPG นั้น พบว่า มีภาคเอกชนสนใจที่จะนำเข้า LPG เพื่อมาจำหน่ายในประเทศ 2-3 ราย แต่ยังต้องการให้รัฐบาลช่วยแก้ปัญหาหลักเกณฑ์ภาครัฐ เพื่อให้เอกชนนำเข้าและสามารถจำหน่าย LPG แบบคลังลอยน้ำ หรือ ship to ship ได้

นอกจากนี้ เอกชนยังเสนอรายละเอียดอื่น ๆ เช่น การทำความเข้าใจกับหน่วยงานกระทรวงการคลัง เรื่องการนำเข้าบิวเทนและโพรเพน เพื่อผสมเป็น LPG จำหน่าย เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาการตีความทางกฎหมายเหมือนในอดีต ซึ่งทาง ธพ.จะนัดหารือ กับกรมศุลกากร กรมสรรพสามิต และกรมเจ้าท่า เพื่อขอความชัดเจนทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ยังมั่นใจว่าจะมีเอกชนนำเข้าได้ภายในเดือน มี.ค.2560 นี้ ซึ่งจะนับเป็นผู้นำเข้าเพื่อจำหน่ายในประเทศรายที่ 2  นอกเหนือจาก บมจ.ปตท. (PTT)

ทั้งนี้ การนำเข้า LPG  เป็นการรองรับปริมาณก๊าซธรรมชาติในประเทศที่จะลดลง เนื่องจากการเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียม โดยเฉพาะแหล่งที่จะหมดอายุนั้นมีความล่าช้า ซึ่งจะกระทบต่อปริมาณการผลิต LPG ภายในประเทศให้ลดลงครึ่งหนึ่งในช่วงปี 2564-2565 ซึ่งเป็นช่วงที่แหล่งปิโตรเลียมใกล้จะหมดอายุ ทำให้อาจต้องนำเข้า LPG มากถึงปีละ 2-3 แสนตัน

ส่วน ปตท.ก็พร้อมที่จะประกาศหลักเกณฑ์ให้รายอื่นมาใช้คลังนำเข้าในเดือน เม.ย.2560 นี้ อย่างไรก็ตาม ในเชิงธุรกิจเห็นว่าเอกชนก็น่าจะนำเข้าด้วยตนเองดีที่สุด ซึ่งหากสร้างคลังนำเข้าเองก็ต้องใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี

สำหรับหลักเกณฑ์การนำเข้า LPG เสรีนั้น ผู้ที่ต้องการนำเข้าจะต้องทำแผนนำเข้า 3 เดือน และต้องแจ้งทุกวันที่ 20 ของเดือน เริ่ม 20 ม.ค.2560 นี้ โดยไม่กำหนดปริมาณการนำเข้า แต่หากไม่สามารถนำเข้าได้ตามปริมาณที่แจ้ง จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะมีทั้งการปรับและบทลงโทษ ซึ่งในขณะนี้กำลังพิจารณาจะออกรายละเอียดด้วยว่าอาจจะกำหนดให้ไม่สามารถนำเข้าในล็อตต่อไปได้ภายใน 6-12 เดือน

ด้าน นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) กล่าวว่า เอกชนได้ขอให้กรมธุรกิจพลังงานช่วยแก้ปัญหาหลักเกณฑ์ภาครัฐ เพื่อให้เอกชนนำเข้าและสามารถจำหน่าย LPG แบบ ship to ship ได้ เพราะปัจจุบันมีเพียง ปตท.รายเดียวที่ได้รับอนุมัติเรื่องนี้ โดยหากดำเนินการได้บริษัทก็พร้อมนำเข้าทันทีในปริมาณที่ประเทศขาดแคลนราว 2-3 หมื่นตันต่อเดือน เพราะมีตลาดรองรับอยู่แล้ว ประกอบกับการเดินหน้าขยายตลาด และจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ก็มั่นใจว่าบริษัทฯจะมีปริมาณขายในปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่ไม่ต่ำกว่า 5% จากราว 2-3 ล้านตันต่อปี