ENERGY

กกพ.จำกัดแค่ 11 นิคมฯตั้งโรงไฟฟ้าขยะได้
POSTED ON 25/08/2559


พลังงานอุตสาหกรรม 25 ส.ค.2559 - ประชาชาติธุรกิจ รายงานข่าวเมื่อเร็วๆ นี้โดยอ้างถึงแหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนที่ออกมาเปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม กำลังผลิต 50 เมกะวัตต์ ได้มีผู้สนใจต้องการลงทุนค่อนข้างมาก แต่เมื่อมีการกำหนดพื้นที่เฉพาะ 11 นิคมอุตสาหกรรมเท่านั้น ได้แก่...  

1. นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร 2. นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ 3. นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง/ปิ่นทอง (แหลมฉบัง)/ปิ่นทอง (โครงการ 3) 4. นิคมอุตสาหกรรมผาแดง 5. นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า 6. นิคมอุตสาหกรรมเหมราช 7. นิคมอุตสาหกรรมราชบุรี 8. นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด 9. นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง 10. นิคมอุตสาหกรรมพิจิตร 11. นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร

 

จากเงื่อนไขดังกล่าวส่งผลให้บางรายไม่สามารถพัฒนาโครงการได้ เนื่องจากมีการเตรียมพื้นที่อื่นไว้สำหรับทำโครงการ และมีนิคมที่ต้องการจะลงทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าขยะเอง เช่น นิคมอุตสาหกรรมอมตะฯ และนิคมอุตสาหกรรมเหมราช ซึ่งเท่ากับว่าจะเหลือเพียงไม่ถึง 3 โครงการที่จะเปิดให้เอกชนรายอื่นเข้ามายื่นเสนอขอผลิตไฟฟ้า

 

ทั้งนี้ โครงการรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าวจะช่วยให้ขยะอุตสาหกรรมอันตรายที่มีการลักลอบทิ้งประมาณร้อยละ 30-40 หันมาเข้าระบบมากขึ้น จากเดิมที่ขยะของเสียจากอุตสาหกรรมจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อกำจัดประมาณ 800-2,000 บาทต่อวัน แต่เมื่อมีโรงไฟฟ้าขยะเข้ามาในพื้นที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและอาจมีรายได้จากการขายขยะเพิ่มด้วย ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีของโรงไฟฟ้าขยะอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ สำหรับกำลังผลิตที่ 10 เมกะวัตต์ เท่ากับว่าจะมีการลงทุนอยู่ที่ประมาณโรงละ 1,500 ล้านบาท

 

โครงการดังกล่าวให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่ประมาณ 6 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นอัตราที่ค่อนข้างจูงใจให้ลงทุน แต่นักลงทุนก็ถอดใจไม่เสนอโครงการเพราะข้อจำกัดด้านพื้นที่ นอกจากต้องมีพื้นที่ที่กำหนดแล้ว จะต้องมีระบบสายส่งรองรับได้อีกด้วย ซึ่งผู้สนใจทำโครงการต้องมีการรับรองจากการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ว่าสายส่งในพื้นที่รองรับได้หรือไม่ด้วย

 

ขณะที่ทางด้านนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ระบุว่า ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างพิจารณาความเหมาะสมว่าจะลงทุนในพัฒนาโรงไฟฟ้าขยะเองได้หรือไม่ เนื่องจากมีนักลงทุนหลายรายสนใจที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าขยะด้วย ซึ่งเร็ว ๆ นี้จะมีการนำเสนอโครงการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าขยะต่อบอร์ดบริหารเพื่อพิจารณา

 

ทั้งนี้ การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นไปตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก หรือ AEDP (Alternative Energy Development Plan 2558-2579) ที่จะต้องรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรวม 16,778 เมกะวัตต์ในปี 2579 เฉพาะในส่วนของโรงไฟฟ้าขยะจะรับซื้อไฟฟ้ารวม 550 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้ยังเหลือจำนวนเมกะวัตต์ที่ต้องรับซื้อเพิ่มเติมประมาณ 180 เมกะวัตต์

 

หลังจากประกาศเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมไปเมื่อวันที่ 9 ส.ค.2559 ที่ผ่านมา ในช่วงระหว่างวันที่ 9-19 ส.ค.2559 จะต้องตรวจสอบจุดเชื่อมโยงระบบส่ง จากนั้นช่วงวันที่ 22-28 ก.ย.2559 จะเปิดให้ยื่นข้อเสนอขอขายไฟฟ้า และ กกพ.จะประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกในวันที่ 28 ต.ค.2559 โดยภายในวันที่ 25 ก.พ.2560 จะต้องมีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และจะต้องผลิตไฟฟ้าเข้าระบบภายในวันที่ 31 ธ.ค.2562

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics