ENERGY

EGCO เสนอ ก.พลังงาน ขอตั้งโรงไฟฟ้าถ่านหิน
POSTED ON 30/11/2558


พลังงานอุตสาหกรรม 30 พ.ย.2558 - นายชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก (EGCO) เปิดเผยว่า บริษัทฯเสนอต่อกระทรวงพลังงาน เพื่อขอก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินตามแผนกระจายเชื้อเพลิงของรัฐบาล ซึ่งบริษัทฯถือหุ้นโรงไฟฟ้าถ่านหิน BLCP ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง อยู่ 50% และโรงไฟฟ้า BLCP เองก็พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1,000 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตแล้วประมาณ 1,400 เมกะวัตต์ หากกระทรวงพลังงานเห็นชอบให้ก่อสร้างภายในปลายปีหน้าก็จะสามารถก่อสร้างเสร็จและส่งไฟฟ้าเข้าระบบภายใน 5 ปีถัดไป หรือราวปี 2563

 

โดยอัตราค่าไฟฟ้าจะถูกกว่าค่าไฟฟ้าการประมูล IPP รอบ 3 ที่เฉลี่ย 4.23 บาทต่อหน่วย เนื่องจากเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหินและอัตราการปล่อยมลพิษจะเป็นไปตามเงื่อนไขภาครัฐ คือ ใช้เกณฑ์เดียวกับโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่จะปล่อยมลพิษในเกณฑ์ต่ำกว่ามาตรฐานภาครัฐกำหนด

 

นอกจากนี้ การสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ในพื้นที่มาบตาพุดจะต้องเป็นไปตามเกณฑ์การดูแลสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ คือ ปรับลดมลพิษที่ปล่อยจากโรงไฟฟ้าเดิมสัดส่วน 20% อีกด้วย ซึ่งประเมินว่าต้นทุนการก่อสร้างจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ หากคำนวณจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินจะใช้ต้นทุนประมาณ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 เมกะวัตต์ ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ต้นทุนสูงเนื่องจากจะมีการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันมลพิษที่ดีกว่าค่ามาตรฐานกำหนด

 

นายชนินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในแผน 5 ปีของบริษัทฯจะมีเม็ดเงินลงทุนในโครงการที่มีกำลังการผลิตในแผนแล้วไม่ต่ำกว่า 91,000 ล้านบาท โดยจำนวนนี้มี 7 โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการกำลังการผลิตใหม่ 1,721 เมกะวัตต์ ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ขณะที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตแล้ว 23 โรงไฟฟ้า 3,795 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯตั้งเป้าว่าปี 2563 จะมีรายได้จากการดำเนินการที่มาจากทั้งในและต่างประเทศสัดส่วนอย่างละครึ่ง จากปัจจุบันมีรายได้ในต่างประเทศเพียงร้อยละ 37 เท่านั้น"

 

ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงให้ความสำคัญกับการขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าที่มีความเชี่ยวชาญ โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทพลังงานในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยขับเคลื่อนธุรกิจด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ (1) การบริหารจัดการโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เดินเครื่องอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด (2) การบริหารจัดการโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกำหนดและงบประมาณที่วางไว้ และ (3) การแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ โดยการซื้อสินทรัพย์ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วเพื่อให้บริษัทฯรับรู้รายได้ทันที

 

ในช่วง 2 ปีข้างหน้า บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่มีฐานทางธุรกิจอยู่แล้ว ได้แก่ ฟิลิปปินส์ และ สปป.ลาว รองลงมาคือ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย รวมถึงจะพิจารณาโอกาสการลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนอื่น เช่น เมียนมาร์ เวียดนาม และมาเลเซีย โดยตั้งเป้าหมายให้มีสัดส่วนรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 37%

 

"โครงการลงทุนใหม่ในอนาคตนอกจากจะลงทุนในอาเซียนแล้วยังพิจารณาไปถึงจีนและอินเดียด้วย โดยโครงการใหม่ที่จะมีความชัดเจนเร็วที่สุดน่าจะเป็นโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในเวียดนาม กำลังการผลิตประมาณ 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการนี้จะร่วมกับ บริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล เข้าไปลงทุน โดยเอ็กโกถือหุ้นประมาณ 30% คาดว่าจะเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ราวปี 2565 ส่วนในเมียนมาร์จะเป็นโครงการโรงไฟฟ้าผลิตจากก๊าซธรรมชาติ ในนิคมอุตสาหกรรมทวาย ซึ่งบริษัทฯร่วมทุนกับกลุ่มอิตัลไทยในสัดส่วนฝ่ายละครึ่ง กำลังการผลิตประมาณ 400 เมกะวัตต์ คาดจะเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ประมาณปี 2561 โดยทั้ง 2 โครงการจะมีความชัดเจนต้นปีหน้า และมีเม็ดเงินลงทุนประมาณ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 เมกะวัตต์ ส่วนโครงการอื่นๆ อยู่ระหว่างการพิจารณา" นายชนินทร์ กล่าว

 

ในไตรมาส 3/2558 เอ็กโกได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนจนทำให้ขาดทุนสุทธิ 151 ล้านบาท แต่เป็นการขาดทุนทางบัญชี เนื่องจากเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดการขาดุทนดังกล่าว ปัจจุบันทางกลุ่มบริษัทฯมีหนี้รวม 84,000 ล้านบาท และเป็นเงินสกุลต่างประเทศ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯยังเชื่อมั่นว่าจากการดำเนินการที่ดีขึ้นจะทำให้บริษัทฯสามารถเติบโตและมีกำไรระดับหมื่นล้านบาทได้ภายในปี 2560

 

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2558 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.2558 บริษัทฯมีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) และภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี 2,662 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 512 ล้านบาท หรือคิดเป็น 24% ในขณะที่ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของ ปี 2558 (ม.ค.-ก.ย.2558) บริษัทฯมีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) และภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี 6,561 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัท

 

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, โลจิสติกส์, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy, Logistics