พลังงานอุตสาหกรรม - นสพ.แนวหน้า รายงานในวันนี้ (24 ส.ค.2558) ว่า นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะทำงานจัดทำแผนงานพัฒนาระบบไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เปิดเผยถึงเรื่องที่กระทรวงพลังงาน โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้จัดตั้งคณะทำงานจัดทำแผนงานพัฒนาระบบไฟฟ้าฯ ขึ้น ซึ่งคณะทำงานจะทำหน้าที่ศึกษา วิเคราะห์ กำหนดกรอบแนวทาง และจัดทำนโยบายและแผนงานพัฒนาระบบไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ โดยเป็นการบูรณาการแผนงานร่วมกันของทั้ง 3 การไฟฟ้า เพื่อรองรับการเข้าสู่เออีซีต่อไป

โดยแผนพัฒนาระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้วางแผนก่อสร้างและปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้า 500 กิโลโวลต์ ซึ่งเป็นระบบหลักในการส่งจ่ายไฟฟ้าของประเทศ อาทิ โครงการพัฒนาและปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้า รองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น รองรับโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และรองรับโครงข่ายไฟฟ้าอาเซียน มีกำหนดแล้วเสร็จภายในปี 2566

ส่วนแผนงานพัฒนาระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้จัดทำแผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน ระยะทางรวมประมาณ 261.6 กิโลเมตร ดำเนินการในปี 2557-2566 (10 ปี) แบ่งดำเนินการเป็น 2 โครงการย่อย คือ โครงการย่อยที่ 1 ระยะทางประมาณ 144.6 กิโลเมตร และ โครงการย่อยที่ 2 ระยะทางประมาณ 117.0 กิโลเมตร ซึ่งสอดรับกับยุทธศาสตร์ของ กฟน.ที่จะยกระดับคุณภาพไฟฟ้าให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเพื่อการเป็นมหานครแห่งอาเซียน เป็นการตอบรับการก้าวเข้าสู่ AEC ของประเทศไทย

สำหรับแผนการพัฒนาระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือ PEA ได้จัดทำโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าเพื่อรองรับการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะแรก เพื่อรองรับเออีซีและรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเติบโตของระบบเศรษฐกิจบริเวณเขตชายแดน ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยระยะแรกมีจำนวน 6 พื้นที่ ได้แก่ (1) อ.แม่สอด จ.ตาก, (2) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว, (3) อ.คลองใหญ่ จ.ตราด, (4) อ.เมือง จ.มุกดาหาร, (5) อ.สะเดา จ.สงขลา และ (6) อ.เมือง จ.หนองคาย ได้อย่างเพียงพอ และมีความมั่นคงเชื่อถือได้

“ปัจจุบัน กฟผ. และ PEA ได้ร่วมมือกันจัดทำแผนพัฒนาระบบส่ง ระบบจำหน่ายไฟฟ้า และแนวทางเพื่อรองรับเออีซี โดยมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพ (Quality) ความเชื่อถือได้ (Reliability) และประสิทธิภาพ (Efficiency) ของระบบไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นจากการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษระยะแรก นอกจากนี้ กฟผ. และ กฟน.ก็อยู่ระหว่างการบูรณาการจัดทำแผนงานพัฒนาระบบไฟฟ้าร่วมกัน อาทิ แผนงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อรองรับการเป็นมหานครแห่งอาเซียน และแผนงานพัฒนาระบบสถานีไฟฟ้าต้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงการจ่ายไฟที่จุดจ่ายไฟรถไฟฟ้าตามโครงการขนส่งทั้งในปัจจุบันและอนาคต และจุดจ่ายไฟอื่นๆ ที่สำคัญ” นายทวารัฐ กล่าว

อ้างอิง : http://www.naewna.com/business/175317

Tags : อุตสาหกรรม, ข่าวอุตสาหกรรม, สื่ออุตสาหกรรม, โรงงาน, เครื่องจักรกล, การผลิต, พลังงาน, Industry, Industrial, Industrial News, Industrial Media, Factory, Machinery, Machine, Manufacturing, Energy