ENERGY

นำร่องมอบรางวัล 4 องค์กรดำเนินกิจการด้านถ่านหินดีเด่น
POSTED ON 02/07/2558


พลังงานอุตสาหกรรม - นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เป็นประธานในงาน Thailand Coal Awards 2015 พร้อมทั้งมอบรางวัลการประกวดและคัดเลือกองค์กรที่มีความเป็นเลิศด้านต่างๆ ในกิจการถ่านหินของไทยให้แก่บริษัทที่ดำเนินธุรกิจถ่านหินจำนวนทั้งสิ้น 4 องค์กร และเตรียมส่งประกวดในระดับอาเซียนต่อไป โดย รมว.พลังงาน ยืนยันว่าประเทศไทยจำเป็นต้องใช้ถ่านหินสะอาดผลิตไฟฟ้า ถึงแม้จะมีการต่อต้านบ้าง แต่ก็ต้องชี้แจงให้เข้าใจถึงเทคโนโลยีและให้เกิดการยอมรับ

 

นางพวงทิพย์ ศิลปศาสตร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการถ่านหินอาเซียน กล่าวว่า "การจัดการประกวด Thailand Coal Awards 2015 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยจะจัดทุก 2 ปี ซึ่งจัดครั้งแรกในปี 2556 เพื่อส่งเสริมการดำเนินการที่ดีในกิจการที่เกี่ยวข้องกับถ่านหินให้ได้มาตรฐานสากล ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน สามารถอยู่ร่วมกับชุมชนและสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข และสร้างความเจริญทางสังคมและเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น

 

โดยปีนี้มีองค์กรที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัลความเป็นเลิศด้านต่างๆ ของกิจการถ่านหินไทย มีจำนวนทั้งสิ้น 4 ราย ใน 5 ด้าน ได้แก่ (1) ด้านเหมืองถ่านหิน มีผู้ชนะเลิศ 1 ราย คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) (2) ด้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน มีผู้ชนะเลิศ 1 ราย คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) (3) ด้านโรงงานที่ใช้ถ่านหิน มีผู้ชนะเลิศ 1 ราย คือ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (4) ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) มีผู้ชนะเลิศ 3 ราย คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) (TPITL) และ บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) และ (5) ด้าน Special Submission มีผู้ชนะเลิศ 2 ราย คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน)

 

สำหรับผลการประกวด Thailand Coal Awards ครั้งนี้ คณะกรรมการ AFOC ฝ่ายไทย (ASEAN Forum on Coal National Committee of Thailand) ซึ่งแต่งตั้งโดยกระทรวงพลังงานเมื่อปี 2555 ได้คัดเลือกองค์กรที่ชนะเลิศด้านต่างๆ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2558 และส่งไปคัดเลือกในการประกวด ASEAN Coal Awards เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2558 โดยองค์กรที่เป็นผู้แทนจากประเทศไทยได้รับรางวัล 6 รางวัล จากทั้งหมด 7 รางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ 4 รางวัล, รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 1 รางวัล และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 1 รางวัล โดยจะมีการรับรองผลอย่างเป็นทางการในการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียน ASEAN Ministers on Energy Meeting (AMEM) เดือน ต.ค.2558 นี้ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

 

"ความสำเร็จจากการประกวดครั้งนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้เกิดการยกระดับมาตรฐานการประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับถ่านหินให้สูงขึ้น ซึ่งหน่วยงานที่ชนะเลิศประเภทต่างๆ ในครั้งนี้จะเป็นต้นแบบของการประกอบกิจการที่ดีสำหรับผู้ประกอบการรายอื่นที่จะสามารถนำไปปรับใช้ได้ต่อไป อีกทั้งยังจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศโดยเฉพาะด้านความมั่นคงทางพลังงานอีกด้วย" นางพวงทิพย์ กล่าว