ENERGY

ESCO เผย 5 ปีช่วยประหยัดพลังงานได้กว่า 4 พันล้านบาท
POSTED ON 10/06/2558


พลังงานอุตสาหกรรม - เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2558 ที่ผ่านมา สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน จัดพิธีลงนามสัญญา โครงการส่งเสริมธุรกิจและกระตุ้นตลาดการอนุรักษ์พลังงานโดยกลไกบริษัทจัดการพลังงาน (ESCO ปีที่ 8)ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อกระตุ้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพัฒนาและส่งเสริมประสิทธิภาพการใช้พลังงานของภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจบริการตลอดจนเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันทางการตลาดของประเทศต่อไป  

 

นายดนัย เอกกมล รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน ได้จัดทำนโยบายและแนวทางเพื่อกำกับดูแล ส่งเสริมให้เกิดการอนุรักษ์พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง โดยดำเนินการภายใต้แผนอนุรักษ์พลังงานระยะ 20 ปี (ปี 2554-2573) ซึ่งกำหนดเป้าหมายให้มีค่าดัชนีการใช้พลังงานรวมต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ณ ปี 2573 ลดลงให้ได้อย่างน้อย 25%

 

โดยมาตรการสำคัญมาตรการหนึ่งที่ พพ. ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน คือการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานด้วยกลไกบริษัทจัดการพลังงาน (ESCO) โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการในหลายๆ ด้าน อาทิ การสร้างมาตรฐานในการปฏิบัติงาน การจัดกิจกรรมกระตุ้นและส่งเสริมตลาดในธุรกิจ ESCO การพัฒนาศักยภาพและให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น 

 

ทั้งนี้ ผลการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานด้วยกลไก ESCO ในช่วงปี 2552-2557 สามารถผลักดันให้เกิดการสัญญาลงทุนโครงการอนุรักษ์พลังงานด้วยกลไก ESCO ได้ถึง 379 โครงการ เงินลงทุนรวมทั้งสิ้นประมาณ 19,615 ล้านบาท และก่อให้เกิดผลประหยัดพลังงานได้เป็นมูลค่ากว่า 4,195 ล้านบาทต่อปี ทั้งยังผลักดันให้เกิดผู้ประกอบการที่ให้บริการ ESCO ขึ้นทะเบียนไว้กับสภาอุตสาหกรรมได้ถึง 59 ราย

 

หากนับเฉพาะผลล่าสุดที่เกิดขึ้นในปี 2557 ที่ผ่านมา สามารถผลักดันโครงการ ESCO ได้ราว 67 โครงการ ก่อให้เกิดการลงทุนทั้งสิ้นกว่า 3,700 ล้านบาท และมีผลประหยัดพลังงานรวมกันประมาณ 670 ล้านบาทต่อปี

 

นายหิน นววงศ์ รองประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม กล่าวว่า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจะส่งเสริมให้เกิดการดำเนินการอนุรักษ์พลังงานโดยอาศัยกลไก ESCO ให้สอดคล้องและเป็นไปตามแนวยุทธศาสตร์หลักของกระทรวงพลังงานที่ได้กำหนดไว้ โดยในปีนี้จะเน้นให้ความสำคัญ 2 ด้าน คือ (1) สร้างความเชื่อมั่นและงานกระตุ้นขยายตลาดการอนุรักษ์พลังงานโดยกลไก ESCO และ (2) การพัฒนามาตรฐานการดำเนินงานและความเป็นมืออาชีพสำหรับบริษัทจัดการพลังงาน พัฒนาแนวทางตรวจวัดและพิสูจน์ผลการประหยัดพลังงาน (M&V) ที่เหมาะสมสำหรับโครงการอนุรักษ์พลังงานแบบ ESCO ของประเทศไทยและมาตรฐานการทำงาน (Code of Practice) เพื่อให้เกิดการใช้กลไก ESCO อนุรักษ์พลังงานในสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยในอนุรักษ์พลังงานให้ประเทศและดำเนินตามยุทธศาสตร์แผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี