พลังงานอุตสาหกรรม - นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ประธานคณะกรรมการกำกับกิจ การพลังงาน (กกพ.) หรือ เรกูเลเตอร์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาความไม่โปร่งใสในการทำธุรกิจผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะผู้ผลิตไฟฟ้าได้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) จากหน่วยงานภาครัฐไปแล้ว แต่ไม่ประสงค์จะผลิตไฟฟ้าจริง และกลับนำใบซื้อขายไฟฟ้าไปขายทำกำไร ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ต้องการผลิตไฟฟ้าแท้จริงไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ รวมทั้งการผลิตไฟฟ้าไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กระทรวงพลังงานกำหนด

ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทางเรกูเลเตอร์จึงได้ออกระเบียบห้ามผู้ประกอบการผลิตไฟฟ้านำสัญญา PPA ไปเร่ขายอีก นับตั้งแต่ได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับหน่วยงานภาครัฐไปจนครบ 3 ปี รวมถึงกรณีโอนสิทธิ์สัญญาหรือโอนหุ้นนั้น สามารถกระทำได้บางส่วน แต่เจ้าของสิทธิ์จะต้องถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 51% หรือยังคงเป็นเจ้าของและมีอำนาจสูงสุดในการบริหารต่อไป

สำหรับประกาศห้ามซื้อขายใบสัญญา PPA ดังกล่าว จะครอบคลุมโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทุกชนิด ทั้งโซลาร์เซลล์ ลม ชีวภาพ ชีวมวล และขยะ เป็นต้น โดยมีผลสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าที่ได้ PPA ใหม่ตามระบบให้เงินสนับสนุนตามต้นทุนที่แท้จริง หรือ FiT ที่เพิ่งประกาศใช้รอบปี 2558 และครอบคลุมถึงผู้ถือใบสัญญา PPA ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2557 ด้วย

"พอประกาศดังกล่าวออกมาแล้ว ก็มีผู้เสียผลประโยชน์จำนวนหนึ่งออกมาโวยไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว ซึ่งทำให้เห็นว่าใครเป็นผู้เสียผลประโยชน์และได้ประโยชน์ในครั้งนี้บ้าง แต่เรกูเลเตอร์ก็ต้องดำเนินการต่อไป เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาประเทศชาติเสียหายจากกลุ่มเสือกระดาษมานาน หากปล่อยทิ้งไว้ก็จะเป็นปัญหาไม่สิ้นสุด ดังนั้น การออกมาตรการดังกล่าวจึงเชื่อว่าเป็นแนวทางแก้ปัญหาเสือกระดาษได้แน่" นายพรเทพ กล่าว