ENERGY

พลังงาน ห่วง สายส่งรองรับไฟฟ้าพลังงานทดแทนไม่เพียงพอ
POSTED ON 26/05/2558


พลังงานอุตสาหกรรม - นายทวารัฐ สูตรบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การเปิด FiT-Biding ยังไม่ได้พูดถึงจำนวนเมกะวัตต์ ซึ่งตามที่รายงานต่อ กพช.นั้นความสามารถของสายส่งที่จะรองรับพลังงานทดแทนในปี 2558-2560 มีประมาณ 3,000 เมกะวัตต์ ทั้งนี้ ไม่นับรวมโครงการรับซื้อไฟฟ้าโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) ค้างท่อที่เคลียร์สายส่งเรียบร้อยแล้ว

 

ขณะที่ศักยภาพของสายส่งที่รองรับกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่นั้นส่วนใหญ่อยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงทางภาคตะวันตกของประเทศ ขณะที่สายส่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีเพียงพอที่จะรับกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ในช่วงเวลาดังกล่าว

 

ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการเตรียมเปิดประมูลรับซื้อไฟฟ้ารูปแบบ Feed in Tariff  Biding (FiT- Biding) สำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นภายในเดือน ก.ค.2558 โดยการเปิดประมูลตามโครงการดังกล่าวจะต้องพิจารณาจากศักยภาพของสายส่งที่จะรองรับกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ที่จะเข้ามาด้วย ซึ่งนอกจากโครงการ FiT- Biding แล้ว ยังรวมถึงการรับซื้อไฟฟ้าจากหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร (โซลาร์ฟาร์มส่วนราชการ) ที่รัฐบาลจะเปิดรับจำนวน 800 เมกะวัตต์ด้วย

 

นายทวารัฐ ระบุว่า ศักยภาพของสายส่งที่จะรองรับกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วงปี 2558-2560 มีมากถึง 1,700 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือเป็นการกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะทางภาคตะวันตกยังมีศักยภาพอยู่ค่อนข้างมาก ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นภาคเดียวที่ไม่มีสายส่งขนาด 500 KV รองรับเลย ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างสายส่งเพิ่มเติม คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561-2562 ซึ่งจะสามารถรับซื้อไฟฟ้าพลังงานทดแทนได้อย่างน้อย 2,000 เมกะวัตต์

 

สำหรับศักยภาพของการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนในส่วนของพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น เห็นว่ามีศักยภาพในส่วนของโรงไฟฟ้าจากขยะเป็นเชื้อเพลิงมากที่สุด โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2558-2579 (PDP 2015) จะมีแผนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) รวมถึงแผนอนุรักษ์พลังงาน(EEDP) ควบคู่กันไปด้วย โดยตลอดแผน AEDP จะมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะรวมประมาณ 550 เมกะวัตต์ ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นขยะอุตสาหกรรม 50 เมกะวัตต์ โดยการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะจะไม่มีการประมูลในส่วนของราคา แต่จะมีการประมูลในส่วนของกระบวนการดำเนินงาน

 

ส่วนความคืบหน้าการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากกลุ่มโซลาร์ฟาร์มส่วนราชการจะเป็นการทยอยรับซื้อ หรือรับซื้อพร้อมกันทั้งจำนวน 800 เมกะวัตต์นั้น ยังต้องพิจารณาหลายเรื่อง เพราะรัฐบาลต้องการให้เป็นโครงการระดับชุมชน และกระจายตัวอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ ขณะที่ปัจจุบันสายส่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังไม่สามารถรองรับโครงการใหม่ได้ ก็ต้องพิจารณาว่าจะดำเนินการได้อย่างใดบ้าง

 

"สำหรับการจัดทำโซนนิ่งของพลังงานทดแทนนั้น ปัจจุบันกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ ทำให้ทราบได้ว่าพื้นที่ใดควรจะต้องใช้พลังงานประเภทใดมากที่สุด แต่ในส่วนของโซนนิ่งสายส่งนั้นยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งจะต้องดูความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่นั้นๆ ประกอบกันด้วย ซึ่งโซนนิ่งสายส่งและพลังงานทดแทนเป็นเรื่องของ FiT Biding เราพยายามจะให้เสร็จในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.2558 นี้ ก่อนที่จะมีการเปิด biding" นายทวารัฐ กล่าว

 

ทั้งนี้ ตามแผน AEDP  ได้กำหนดสัดส่วน 20% ของการใช้พลังงานทั้งหมดหรือมีกำลังผลิตรวม 19,685 เมกะวัตต์ โดยจะเป็นการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล 5,570 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตแล้วกว่า 2,000 เมกะวัตต์ รวมถึงเป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานขยะ, ก๊าซชีวภาพ, พลังงานน้ำ, พลังงานลม, แสงอาทิตย์ และพืชพลังงาน เป็นต้น