ENERGY

กลุ่มโรงกลั่น คาด อุตฯกลั่นน้ำมันในประเทศปีนี้จะปรับตัวดีขึ้น
POSTED ON 24/02/2558


พลังงานอุตสาหกรรม - นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในปี 2558 คาดว่าจะทำให้อุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันในประเทศปีนี้น่าจะปรับตัวดีขึ้น จากการคาดการณ์เศรษฐกิจที่เติบโตสูงขึ้น อุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปจะเพิ่มมากขึ้นจากราคาที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่คาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจะทำให้มีกำไรจากสต็อกน้ำมัน

 

นอกจากนี้ การที่ราคาน้ำมันดิบลดลงทำให้ใช้เงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) น้อยลง ช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการเงิน ประกอบกับค่าการกลั่นที่คาดว่าจะดีขึ้น จากการที่ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในตลาดภูมิภาคปรับตัวลงช้ากว่าการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบ ตลอดจนการฟื้นตัวดีขึ้นของเศรษฐกิจในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องจับตามองในปีนี้คือการปฏิรูปพลังงาน ที่มีวัตถุประสงค์ให้ราคาพลังงานสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อปริมาณความต้องการน้ำมันสำเร็จรูปชนิดต่างๆ ภายในประเทศอย่างมีนัยสำคัญ

 

นายสุกฤตย์ กล่าวว่า แนวโน้มและสถานการณ์ของน้ำมันโลกในปี 2558 ราคาน้ำมันดิบดูไบน่าจะอยู่ในช่วง 50-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งปรับลดลงอย่างมากจากปี 57 ที่ราคาดูไบเฉลี่ย 97 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากข้อมูลล่าสุดคาดว่าอุปสงค์น้ำมันดิบจะขยายตัวที่ระดับ 9 แสนบาร์เรล/วัน โดยมีความต้องการหลักจากเอเชีย

 

สำหรับอุปทานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในระดับใกล้เคียงกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มาจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่มีการผลิตน้ำมันดิบจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil) ในขณะที่มีโรงกลั่นใหม่เพิ่มขึ้นทั้งจากตะวันออกกลางและภูมิภาคเอเชียราว 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน และคาดว่าจะมีโรงกลั่นเก่าปิดตัวลงกว่า 3 แสนบาร์เรล/วัน ทำให้กำลังการกลั่นสุทธิที่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบดูไบน่าจะทรงตัวอยู่ที่ระดับ 50-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ค่าการกลั่นก็น่าจะทรงตัวอยู่ในระดับที่ดี

 

หลังจากนั้นมีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันดิบดูไบจะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังอยู่ที่ระดับ 60-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอการลงทุนของแหล่งผลิตน้ำมันดิบที่มีต้นทุนสูงและไม่คุ้มทุนที่ระดับราคาในปัจจุบัน จากทิศทางราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ผู้ค้าน้ำมันทำการเช่าเรือเก็บน้ำมันลอยลำกลางทะเล (Floating Storage) เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนอยู่ที่ระดับ 60 ล้านบาร์เรลในเดือน ม.ค.2558 ที่ผ่านมา

 

ส่วนผลกระทบราคาน้ำมันต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม จากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างมาก คาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจโลกเติบโตในอัตราที่ดีขึ้นในปี 2558 โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่นำเข้าน้ำมันสุทธิ ไม่ว่าจะเป็นสหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ซึ่งล้วนเป็นเขตเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งประเทศไทยเองด้วย ยกเว้นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ได้รับผลกระทบทางลบ เช่น ประเทศในตะวันออกกลาง และ รัสเซีย เป็นต้น