ENERGY

PTG ร่วมพันธมิตร ทุ่ม 4.8 พันล้านบาท ตั้ง "ปาล์มคอมเพล็กซ์"
POSTED ON 09/12/2557


พลังงานอุตสาหกรรม - นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า พีทีจี ได้ร่วมลงนามกับพันธมิตร 3 ราย ซึ่งได้แก่ กลุ่มบริษัทท่าฉางอุตสาหกรรม หรือ ทีซีจี (TCG) บริษัท โอพีจีเทค จำกัดและบริษัท อาร์แอนด์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด เพื่อจัดตั้งบริษัทขึ้นมาดำเนินธุรกิจในโครงการอุตสาหกรรมปาล์ม คอมเพล็กซ์ (Palm Complex) ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจผลิตปาล์มน้ำมันครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทย มูลค่าการลงทุนทั้งหมดประมาณ 4,800 ล้านบาท

 

ปาล์ม คอมเพล็กซ์ เป็นโครงการร่วมทุนที่พันธมิตรทุกฝ่ายเล็งเห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยโครงการดังกล่าวจะดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลผลิตจากอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันครบวงจร ประกอบด้วย หน่วยผลิตต่างๆ ตั้งแต่สวนปาล์ม โรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โรงกลั่นน้ำมันปาล์ม โรงผลิตไบโอดีเซล โรงแยกไข โรงบรรจุน้ำมันปาล์มเพื่อบริโภค แหล่งกำเนิดพลังงานและไอน้ำ คลังเก็บน้ำมัน และสาธารณูปโภคพื้นฐาน บนพื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์

 

นายพิทักษ์ กล่าวว่า ในส่วนของแหล่งกำเนิดพลังงานและไอน้ำนั้นจะเป็นการป้อนไฟฟ้าให้ภายในโครงการเท่านั้นไม่ได้ส่งขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งคาดว่ากำลังการผลิตอยู่ที่ 5-6 เมกะวัตต์ แต่หากในระยะยาวสามารถเพิ่มกำลังการผลิตและเพียงพอต่อความต้องการในโครงการอาจจะขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ.ด้วย

 

ปาล์ม คอมเพล็กซ์เป็นโครงการอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย เริ่มตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำคือเริ่มจากสวนปาล์ม สู่โรงงานอุตสาหกรรม กระบวนการผลิต และสู่กระบวนการจัดจำหน่าย ซึ่งแบ่งเป็นสัดส่วนลงทุนได้แก่ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี 35%, กลุ่มบริษัทท่าฉางอุตสาหกรรม 45%, บริษัท โอพีจีเทค จำกัด 10% และ บริษัท อาร์แอนด์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด 10% โดย PTG จะใช้เงินลงทุนในโครงการดังกล่าวราว 500 ล้านบาท ซึ่งจะมีการจัดบริษัทใหม่ขึ้นมา คือ บริษัท พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด ที่มีทุนจดทะเบียนราว 200 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 800 ล้านบาท ในต้นปี 2558 จากนั้นจะเพิ่มทุนเป็น 1,600 ล้านบาท ในระยะต่อไป

 

นอกจากนี้ ยังมีแผนการลงทุนที่ครอบคลุมไปเพื่อรองรับการขยายเฟส 2 ด้วย ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าของผลผลิตปาล์มเพิ่มมากยิ่งขึ้น พร้อมที่จะก้าวสู่ผู้นำอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันระดับประเทศและระดับภูมิภาคในอนาคต ทั้งนี้ คาดว่าโครงการปาล์ม คอมเพล็กซ์ จะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2558 และจะแล้วเสร็จในปี 2560 ขณะที่โรงบรรจุน้ำมันปาล์มเพื่อการบริโภคมีความสามารถในการผลิตประมาณ 200 ตันต่อวัน และโรงผลิตไบโอดีเซลมีกำลังการผลิตสูงสุดได้ถึง 4.5 แสนลิตรต่อวัน

 

สำหรับการเพิ่มจำนวนสถานีน้ำมันนั้นปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายจะขยายเพิ่มเป็น 1,000 สถานี ซึ่งขณะนี้มีแล้วกว่า 920 สถานี และมีแผนเพิ่มปีละ 200 สถานี จากแผนการขยายสถานีบริการน้ำมันดังกล่าวจะสามารถรองรับการผลิตไบโอดีเซลของโครงการปาล์ม คอมเพล็กซ์ ได้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 6% และคาดว่าจะเพิ่มอีกในอนาคตหลังมีสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น

 

ด้าน นางสาวภัคจิรา รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์แอนด์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด ในฐานะบริษัทด้านธุรกิจจัดหาเมล็ดพันธุ์และเพาะกล้าปาล์ม กล่าวว่า ในระยะยาวจะทำให้อุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเติบโตได้อย่างยั่งยืนและรองรับกับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ผู้ปลูกปาล์ม ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มทั้งโรงสกัดและโรงกลั่นหรือผู้นำไปใช้ต่อยอดในอุตสาหกรรมพลังงานและผู้บริโภคที่ใช้น้ำมันปาล์ม โดยรวมถือว่าทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประเทศไทย

 

ที่มา : แนวหน้า