พลังงานอุตสาหกรรม - นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า โครงการสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ทดแทนหน่วยผลิต 4-7 รวม 600 เมกะวัตต์ ยังคงเดินหน้าต่อ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ที่ผ่านมา กฟผ.ได้เปิดให้เอกชนเข้าร่วมประมูล โดยกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าจากถ่านหินแม่เมาะไว้ 1.84 บาทต่อหน่วย วงเงินลงทุน 36,811 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่กำหนดไว้ตั้งแต่ปี 2555 โดยผ่านความเห็นชอบจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แล้ว ประกอบกับเทคโนโลยีในปัจจุบันที่สูงขึ้น และประชาชนต้องการให้การลงทุนมีความมั่นใจ ดังนั้น กระแสข่าวที่ระบุว่ามีการเพิ่มเงินลงทุนจึงไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

"ผู้ชนะประมูลคือ กลุ่มร่วมค้าอัลสตอม ประเทศฝรั่งเศส ร่วมกับ อัลสตอม ประเทศไทย และกลุ่มฮิตาชิ เสนอราคาประมูล 38,000 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มร่วมค้าสุมิโตโม ร่วมกับ ฮิตาชิ และกลุ่มอิตาเลียนไทย เสนอราคาประมูล 48,350 ล้านบาท ซึ่งราคาดังกล่าวสูงเกินไปตามเทคโนโลยีที่มากขึ้น ไม่ใช่เพราะต้องการแพ้ประมูล โดยขั้นตอนหลังจากนี้อยู่ระหว่างรอเสนอที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อก่อสร้างปี 2558" ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าว

นอกจากนี้ นายสุนชัย ยังเผยถึงกรณีสายส่งสำหรับโครงการไอพีพีด้วยว่า ขณะนี้ยังขาดสายส่งไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการของผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) ซึ่งกลุ่มบริษัท กัลฟ์ เจพี ที่ชนะการประมูลเมื่อปี 2556 จำนวน 5,000 เมกะวัตต์ โดยการผลิตไฟฟ้าโครงการดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในภาคตะวันออก แม้ว่าที่ผ่านมา ครม.ได้อนุมัติโครงการพัฒนาสายส่งไฟฟ้าที่บริเวณ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จำนวน 2,700 เมกะวัตต์ และการพัฒนาสายส่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อรองรับไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนไปแล้ว รวมถึงการพัฒนาระบบสายส่งภาคใต้ มูลค่าลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาทไปแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรองรับโครงการไอพีพีของกัลฟ์

"ตอนนี้ต้องขอความชัดเจนของรัฐบาลในการกำหนดนโยบายแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี) ฉบับใหม่ให้เสร็จก่อน พร้อมทั้งกำหนดการสร้างสายส่งไฟฟ้าเพิ่ม จากนั้นทาง กฟผ.จึงจะสามารถจัดทำแผนพัฒนาสายส่งไฟฟ้าให้รัฐบาลอนุมัติได้ เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนจากรัฐบาล 5,000-6,000 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่มีการอนุมัติพัฒนาสายส่งดังกล่าว จะส่งผลให้กัลฟ์ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าเข้าสู่ระบบตามแผนในปี 2565 ได้ ซึ่งจะกระทบกับความมั่นคงทางไฟฟ้าของประเทศ" นายสุนชัย กล่าว