ข่าวพลังงาน - เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2557 ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้จัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน ในหัวข้อ "ทิศทางพลังงานไทย" ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ต่อจากเวทีที่กรุงเทพฯ และ จ.ขอนแก่น ณ โรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และครั้งสุดท้ายจะจัดขึ้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 19 ก.ย.2557 นี้ ก่อนที่จะรวบรวมความคิดเห็นจากทั่วทุกภูมิภาคนำไปสู่การปฏิรูปพลังงานของประเทศในภาพใหญ่ตามแผนพลังงานไทย (พ.ศ.2558-2579) ต่อไป

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานอยู่ในระหว่างการดำเนินการจัดทำแผนด้านพลังงานของประเทศไทยในระยะยาว 20 ปี ซึ่งประกอบด้วย แผนการจัดหาเชื้อเพลิงพลังงาน แผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า แผนพัฒนาพลังงานทดแทน และแผนอนุรักษ์พลังงาน เพื่อสร้างความมั่นคงและยั่งยืนให้กับพลังงานของประเทศ ดังนั้น เรื่องพลังงานจึงเป็นเรื่องสำคัญของประชาชนและการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนก็เป็นสิ่งสำคัญตามแนวนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เน้นให้กระทรวงพลังงานลงพื้นที่ทำความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพื่อสร้างแผนพลังงานในอีก 20 ปีข้างหน้า ให้มีความชัดเจนและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายให้มากที่สุด

สำหรับทิศทางพลังงานของประเทศไทยเป็นเรื่องที่สำคัญมากและเรื่องราคาของพลังงานก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน เพราะว่าการลงทุนจากต่างประเทศหรือการลงทุนจากคนภายในประเทศจะพบว่าต้นทุนไฟฟ้าเป็นต้นทุนส่วนหนึ่งที่สำคัญ หากประเทศไทยสามารถบริหารต้นทุนไฟฟ้าได้ บริหารพลังงานถ่านหิน พลังงานทางเลือกอื่นๆ เช่น พลังงานไฟฟ้าและพลังงานน้ำได้ ไม่เฉพาะแต่ภาคการลงทุนเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ ทุกคนจะได้ประโยชน์และมีพลังงานใช้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

จากข้อมูลการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ภาคเหนือ พบว่า ไฟฟ้าส่วนใหญ่มาจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง เป็นหลัก ซึ่งโรงไฟฟ้าแม่เมาะสามารถให้พลังงานกับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าทั่วภาคเหนือได้ทั้งหมด ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าแม่เมาะยังมีถ่านหินอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเพียงพอต่อการผลิตไฟฟ้าให้กับประชาชนภาคเหนือได้อีกหลายสิบปี

โรงไฟฟ้าแม่เมาะ เป็นโรงไฟฟ้าที่ไม่ปล่อยควันพิษและมีความปลอดภัย คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี ดังนั้น โรงไฟฟ้าถ่านหินที่จะเป็นทางเลือกให้กับประเทศไทยจึงควรจะได้รับการพิจารณาต่อไป เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินในปัจจุบันมีความสะอาด มีความปลอดภัย หากมีการบริหารจัดการได้ดีจะเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกที่ประเทศไทยต้องพิจารณา เพราะว่ามีต้นทุนที่ต่ำมาก

“สำหรับการพัฒนาแหล่งพลังงานของภาคเหนือเอง ควรพิจารณาถึงการพัฒนาแหล่งพลังงานกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพม่า ซึ่งพลังงานส่วนใหญ่จะมาจากพลังงานน้ำจากเขื่อน ไฟฟ้าที่ได้ก็จะเป็นพลังงานราคาถูกและสะอาด” นายอารีพงศ์ กล่าว

สำหรับภาคเหนือในปัจจุบันมีการใช้พลังงานทดแทนเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ทางกระทรวงพลังงานจะช่วยส่งเสริมในเรื่องของพลังงานทดแทนต่อไป ทั้งนี้ หากดูปริมาณพลังงานทดแทนจากทั่วประเทศแล้ว ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลางมีการใช้พลังงานทดแทนจำนวนมาก ซึ่งมาจากพลังงานชีวมวลจากสินค้าเกษตรกรรมมาผลิตเป็นก๊าซ และมีพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมบางส่วน

นายอารีพงศ์ ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับภาคเหนือ คือ ภาคเหนือมีหมอกควันจำนวนมากซึ่งจะกระทบต่อการท่องเที่ยว โดยส่วนใหญ่พบว่าเกิดจากการเผาซังข้าวโพดและวัสดุทางการเกษตร หากสามารถบริหารจัดการตรงนี้ได้และชุมชนมีการรวบรวมวัสดุทางการเกษตรมาส่งให้โรงงานผลิตก๊าซเพื่อนำกลับมาเป็นพลังงานชีวมวลได้ก็จะช่วยลดปัญหาหมอกควันและสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งทางจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องโรงไฟฟ้าขยะมานานพอสมควร และทางกระทรวงพลังงานก็เห็นด้วยกับแนวคิดและจะช่วยสนับสนุนต่อไป

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ