ENERGY

นายกฯ สั่ง ?พลังงาน-กฤษฎีกา-สตง.? เช็คการคืนท่อก๊าซฯ ของ ปตท.
POSTED ON 26/08/2557


พลังงานอุตสาหกรรม - นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังประชุมแนวทางการทำงานวิจัยเกี่ยวกับพลังงาน ระหว่างกระทรวงพลังงานและสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2557 ที่ผ่านมา ว่า ในการแยกธุรกิจท่อก๊าซของ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ออกมาตั้งบริษัทใหม่นั้น ล่าสุด "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานประสานสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา หารือร่วมกับ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อพิจารณาเรื่องการคืนท่อก๊าซฯ ว่า ที่ผ่านมา ปตท.มีการคืนครบถ้วนหรือไม่ เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา สตง.ได้ส่งหนังสือสอบถามความชัดเจนเรื่องการคืนท่อก๊าซให้รัฐบาล

 

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติให้ ปตท.แยกท่อก๊าซฯ เพื่อตั้งบริษัทขึ้นมาดูแลเฉพาะ ขณะที่กระทรวงการคลังอาจให้กองทุนวายุภักดิ์เข้าถือหุ้นในบริษัทลูกที่ตั้งขึ้น

 

"เชื่อว่าแนวทางการพิจารณาข้อกฎหมายจะได้ความชัดเจนในเร็วๆ นี้ ดังนั้น ในหลักการแยกท่อก๊าซฯ ของ ปตท.ตามมติของ กพช.จึงอาจชะลอออกไปก่อน แต่ไม่มีปัญหา เพราะตามแผนจะดำเนินแยกท่อเสร็จคือกลางปี 2558 เมื่อปัญหาเรื่องการคืนท่อก๊าซฯ เสร็จสิ้น ปตท.ก็สามารถเดินหน้าต่อได้ทันทีตามแผนที่วางไว้" นายอารีพงศ์ กล่าว

 

พร้อมกันนี้ กระทรวงพลังงานจะจัดให้มีการรับฟังความเห็นเพื่อพิจารณาแผนกำลังผลิตไฟฟ้าประเทศ (พีดีพี) ระยะเวลา20 ปี (2558-2578) ในวันที่ 29 สิงหาคม 2557 นี้ โดยจะเริ่มจัดขึ้นในกรุงเทพฯ และทยอยจัดทั่วประเทศภายใน 3 เดือนจากนี้ เริ่มที่ภาคใต้ และต่อไปยังภาคอื่นๆ

 

สำหรับความคืบหน้าเรื่องการปรับโครงสร้างราคาพลังงานที่กำหนดรับฟังความเห็นช่วงเดือนสิงหาคม เบื้องต้นจะต้องรอให้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาพิจารณา ก่อนประกาศปรับโครงสร้างราคาอย่างเป็นทางการต่อไป

 

ด้าน นายธำรงรัตน์ มุ่งเจริญ ฝ่ายวิจัย สวทช. กล่าวถึงผลงานการจัดการของเสียเพื่อผลิตพลังงาน หรือ ไบโอแก๊ส ว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่กระทรวงพลังงานดำเนินนโยบายส่งเสริมการผลิตไบโอแก๊ส กำลังการ รวม 3,000 เมกะวัตต์ นับว่ามีผลตอบรับที่น่าพอใจ แต่ควรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตขึ้นอีก เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรที่ปลูกพืชในอุตสาหกรรมอาหาร และช่วยลดปริมาณการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ

 

ขณะที่โครงการสร้างระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพในอุตสาหกรรมแป้งมันสำปะหลัง รวมถึงอุตสาหกรรมเกษตร และอาหารกว่า 20 โรงงาน เพื่อใช้ผลิตกระแสไฟฟ้านั้น นายธำรงรัตน์ระบุว่าจะช่วยให้ประเทศประหยัดพลังงานได้กว่า 180 ล้านบาทต่อปี