พลังงานอุตสาหกรรม - การจ่ายพลังงานในตะวันออกกลางนั้นใช้ต้นทุนสูง และไม่สามารถจัดส่งพลังงานในหลายๆ พื้นที่ได้ เนื่องจากการขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐาน โครงสร้างพื้นฐานที่เคยใช้การได้ล้วนถูกทำลายในระหว่างสงคราม และปฏิบัติการทางทหารในอดีต ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้าเพียงแห่งเดียวในปาเลสไตน์ ดังนั้น การวางระบบจ่ายพลังงานแบบกระจายศูนย์อย่างอิสระที่ไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบอาจก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนในท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง

ปัจจุบัน Care-Energy บริษัทผู้ผลิตพลังงานในเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมัน กำลังพยายามหาทางเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ดังกล่าว และทำให้ประชาชนได้ใช้พลังงานอย่างอิสระเสรี โดยสำนักงานของ Care-Energy ประจำเมืองเบรุต กำลังจะเริ่มให้บริการพลังงานแก่ประชาชนในตะวันออกกลาง หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากโครงการให้บริการพลังงานแก่โรงพยาบาล โรงเรียน และที่อยู่อาศัยส่วนบุคคลในระดับนานาชาติทั้งในแอฟริกา และเอเชียมาแล้ว

Care-Energy จะให้บริการสินค้าโดยขนส่งผ่านทางทะเลจากเมืองฮัมบูร์กสู่ท่าเรือเมืองเบรุต “CareCel” ซึ่งเป็นระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์พร้อมแหล่งกักเก็บพลังงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานอื่นๆ ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถจ่ายพลังงานได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องพึ่งพาโรงไฟฟ้า เพื่อการจัดส่งไฟฟ้าไปสู่ภาคครัวเรือน ธุรกิจ และสถานที่ต่างๆ อาทิ โรงเรียน และโรงพยาบาล ในระหว่างการขนส่งจะมีการใช้ตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน ISO และแผ่นไม้อัด OSB ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตบรรจุภัณฑ์ วัสดุเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ประโยชน์ภายในประเทศ เพื่อเป็นวัสดุปลูกสร้างที่อยู่อาศัยหลังจากที่ถูกใช้ในการขนส่งมาแล้ว 1 ครั้ง

นายมาร์ติน ริชาร์ด คริสเท็ก (Martin Richard Kristek) เจ้าของกิจการ และซีอีโอ Care-Energy กล่าวว่า "ในบรรดาประเทศที่ยากจนที่สุดของโลก การขาดแคลนโครงข่ายไฟฟ้าพื้นฐานหมายความว่า ประชาชนต้องใช้รายได้ส่วนใหญ่ไปกับการใช้พลังงานที่ผลิตจากเชื้อเพลิงดีเซลเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก่อให้เกิดมลภาวะ และความเสี่ยงต่อสุขภาพ หรือความเสี่ยงที่จะไม่มีพลังงานไฟฟ้าใช้เลยก็ตาม เราจะแสดงให้เห็นถึงวิธีการเปลี่ยนแปลงวิกฤตดังกล่าวโดยเริ่มต้นจากในประเทศเลบานอนก่อน เมื่อไม่นานมานี้โครงการ Helping Hands ของบริษัทฯ ได้วางแผนเรื่องการให้บริการระบบผลิตพลังงาน CareCel จากเมืองฮัมบูร์กไปยังพื้นที่ต่างๆ ในปาเลสไตน์"

"ระบบ CareCel ของเรา ซึ่งได้มีการพัฒนาอยู่ภายในองค์กร ประสบความสำเร็จในการทดสอบการใช้งานในโรงเรียน โรงพยาบาล และที่อยู่อาศัยแล้ว ปัจจุบัน เรากำลังนำเสนอระบบนี้ไปยังประเทศต่างๆในตะวันออกกลาง โดยจะเริ่มจากเลบานอน ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อระบบ CareCel หรือจ่ายค่าไฟฟ้าที่ใช้ไปตามจริง โดยทั่วไปแล้วลูกค้าจะใช้วิธีการชำระค่าไฟฟ้าที่ใช้งานจริงตามหน่วยกิโลวัตต์-ชั่วโมงเป็นส่วนใหญ่ เว้นแต่พลังงานจะถูกผลิตโดยใช้ระบบ CareCel" นายคริสเท็ก กล่าว

ดังนั้น บริษัทฯ จึงสามารถให้บริการพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้ในราคาถูก โดยคาดว่าจะสามารถลดปริมาณการใช้พลังงานได้ในระยะยาว ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังช่วยเสริมศักยภาพด้านการเติบโต และการพัฒนาให้แก่ธุรกิจต่างๆด้วยการให้บริการพลังงานที่ไว้วางใจได้

เมื่อกล่าวถึงแผนการขยายขอบเขตการให้บริการในตะวันออกกลาง นายคริสเท็กยังเน้นย้ำถึงความทุ่มเทของบริษัท Care-Energy ที่มีต่อสังคมว่า "เราจะใช้ตู้คอนเทนเนอร์ และแผ่นไม้อัด OSB ทั้งหมดจากการขนส่งมาเป็นวัสดุก่อสร้างที่อยู่อาศัยต่อไป ดังนั้น เราจึงพัฒนาระบบการสร้างบ้านจากตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นมา โดยจะใช้ตู้คอนเทนเนอร์และแผ่นไม้อัด OSB มาสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนที่ขาดแคลนที่อยู่อาศัยในภูมิภาคตะวันออกกลางผ่านโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยเพื่อชุมชน นอกจากนี้ เราจะให้บริการพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากระบบของเราเองแก่ที่อยู่อาศัยในโครงการนี้ด้วย เราหลอมรวมเจตจำนงทางเศรษฐกิจในตะวันออกกลางไว้อย่างชัดเจนโดยพุ่งเป้าไปที่การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม, ความยั่งยืน, การทุ่มเทเพื่อสังคม และส่งเสริมเศรษฐกิจในท้องถิ่น ยิ่งมีผู้คนใช้ระบบ CareCel มากเท่าใดก็ยิ่งมีที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ยากไร้มากขึ้นเท่านั้น เพราะตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้ในการขนส่งสินค้าแต่ละตู้นั้นหมายถึงบ้านอีก 1 หลัง"

สำนักงาน Care-Energy ในเลบานอนเป็นสาขาที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ Care-Energy Holding GmbH โดยมี นายโรแลนด์ อายูบ (Roland Ayoub) เป็นผู้บริหารสาขาร่วมกับ นายมาร์ติน ริชาร์ด คริสเท็ก (Martin Richard Kristek)